รองผู้ว่าฯ เลย แถลงข่าวโฆษกจังหวัดเลย ประจำเดือนสิงหาคม 2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายพรชัย ถมกระจ่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะโฆษกจังหวัดเลย เป็นประธานการแถลงข่าวโฆษกจังหวัดเลย ประจำเดือนสิงหาคม 2560 ที่ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พันเอก สมหมาย บุษบา เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 28 , นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอเชียงคาน , นายประมวล ลาภจิตต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย และนายเสฎฐชัย ยุทธเศรษฐสิริ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน พร้อมนำสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่จังหวัดเลย เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวโฆษกจังหวัดเลยในครั้งนี้ด้วย โดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเลย ระบบเอฟเอ็ม ความถี่ 95.25 เมกะเฮิรตซ์ และระบบเอเอ็มความถี่ 1341 กิโลเฮิร์ตซ์ ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายในการผลิตรายการ และถ่ายทอดสัญญาณไปยังสถานีเครือข่าย และวิทยุชุมชนทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดเลย
สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวโฆษกจังหวัดเลย ประจำเดือนสิงหาคม 2560 มีวาระสำคัญ ประกอบด้วย สรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดเลยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน , ภาพรวมการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในส่วนของจังหวัดเลย , ผลการรับเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ , การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด , การบุกรุกพื้นที่ป่า , การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุในช่วงฤดูฝน
นายพรชัย ถมกระจ่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะโฆษกจังหวัดเลย เปิดเผยถึงสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีเรื่องแจ้งร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลยแล้วจำนวน 1,989 เรื่อง ซึ่งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย ได้ดำเนินการจนเรื่องยุติไปแล้ว จำนวน 1,893 เรื่อง ยังมีอีก จำนวน 96 เรื่อง ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวค่อนข้างมาก
ด้าน พันเอก สมหมาย บุษบา เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 28 เปิดเผยว่า ในส่วนของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นั้น ทางมณฑลทหารบกที่ 28 ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องนี้ในลำดับต้นๆ ของการปฏิบัติงาน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา ทางมณฑลทหารบกที่ 28 ได้ส่งชุดปฏิบัติ เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในแต่ละอำเภอ ทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดเลย จำนวน 100 นาย พร้อมสำรองชุดกองหนุนไว้ขยายผล จำนวน 1 กองร้อย และมีชุดปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 3 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาในกรณีฉุกเฉินและเพื่อสร้างแรงกดดันให้แก่กลุ่มผู้ค้าและกลุ่มผู้เสพในพื้นที่เป้าหมายสำคัญ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการสถานบริการยามค่ำคืน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุจริตประพฤติมิชอบ นั้น ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จำนวน 4 เรื่อง ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ สำหรับการดำเนินการฟื้นฟูสภาพภูเขาหัวโล้นในพื้นที่จังหวัดเลย ให้เป็นพื้นที่ป่า ตามโครงการกองทัพบกอาสา ปลูกป่า สร้างฝาย สืบสานพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 พื้นที่ดำเนินการประมาณ 2,000 ไร่ ครอบคลุมทั้งอำเภอภูเรือและอำเภอด่านซ้าย โดยได้มีการปลูกไม้ป่าดิบชื้นไปแล้ว จำนวน 300,000 กล้า นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนกำลังในการดำเนินการทวงคืนผืนป่า ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งภารกิจการสนับสนุนการฝึกอบรมหลักสูตรผู้นำท้องที่ท้องถิ่นไปแล้ว จำนวน 10 รุ่น ด้วยขณะที่ นายประมวล ลาภจิตต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย ได้เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเซินกา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า ทางจังหวัดเลย ได้ประกาศให้พื้นที่ 10 อำเภอ 50 ตำบล 335 หมู่บ้าน 5 ชุมชน เป็นเขตพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้อำเภอบูรณาการการการทำงาน ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความเสียหายและให้ความช่วยเหลือ ทั้งในด้านพืช ด้านสัตว์ ด้านประมง และด้านโครงสร้างพื้นฐาน แล้ว ทั้งนี้ความเสียหายด้านที่อยู่อาศัย มีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน จำนวน 592 หลัง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ดีจังหวัดเลยจะจัดสรรงบประมาณในวงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อดูแลเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัย โดยรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม ตามระเบียบของทางราชการ
ทั้งนี้ นายเสฎฐชัย ยุทธเศรษฐสิริ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยถึงการประดิษฐ์ดอกไม้จันทร์พระราชทานในส่วนของจังหวัดเลยว่า จังหวัดเลย ได้กำหนดการประดิษฐ์ดอกไม้จันทร์พระราชทานสำหรับประชาชนไว้ จำนวน 2 แบบ คือ ดอกดารารัตน์ และดอกชบาทิพย์ หรือแบบที่ประชาชนมีความถนัด โดยคำนึงถึงความประหยัด เน้นใช้วัสดุธรรมชาติในพื้นที่ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสมพระเกียรติ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งจังหวัดเลย ได้กำหนดเป้าหมายการปฏิบัติไว้จำนวน 640,000 ดอก เพื่อให้เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนที่จะเข้าร่วมถวายดอกไม้จันทร์ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายใต้การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยในปัจจุบันสามารถประดิษฐ์ดอกไม้จันทร์พระราชทานได้แล้ว จำนวน 480,000 ดอก หรือคิดเป็นร้อยละ 75
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
thainews