มหัศจรรย์ธรรมชาติ ถ้ำประกายเพชร อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย

มหัศจรรย์ธรรมชาติ ถ้ำประกายเพชร อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย


ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่น่ามหัศจรรย์ของถ้ำต่างๆ ในจังหวัดเลย ก็มีแตกต่างกันออกไปให้ได้พบและค้นหามากมาย และแน่นอนว่า เมื่อพูดถึงถ้ำแล้วนั้น มักจะคู่กับความเร้นลับบางอย่าง ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล หรือความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น บ้างก็ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับพญานาคหรือเมืองบาดาล ก็เป็นได้ ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และวันนี้แอดมินและทีมงานโกทูเลย จะพาทุกท่านไปเที่ยวชม ความมหัศจรรย์ของถ้ำประกายเพชร อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย

วัดถ้ำประกายเพชรตั้งอยู่ที่ ตำบลนาดินดำ อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย
พิกัด 17. 546319, 101.913659


พิกัดวัดถ้ำประกายเพชร อ.นาด้วง จ.เลย

การเดินทางไปยังถ้ำประกายเพชรนั้น ทีมงานเริ่มต้นการเดินทางที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ใช้เส้นทางหมายเลข 201 ถนนเลย-เชียงคาน ไปทางในเมือง ผ่านบริษัท บิ๊กโฮม จำกัด เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมะขามหวาน ไปตามเส้นทางผ่านวัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง อารามหลวง) จนถึง 3 แยก เลย-นาด้วง เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนหมายเลข 2138 (เลย-นาด้วง) ไปตามเส้นทาง 26 กิโลเมตร เมื่อถึงบ้านท่าสะอาด เลี้ยวซ้าย ไปตามเส้นทางอีก 5.6 กิโลเมตร จะพบป้าย วัดถ้ำผาขาม ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีก 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่ วัดถ้ำประกายเพชร เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางค่ะ



แผนที่ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ไปยัง วัดถ้ำประกายเพชร อ.นาด้วง จ.เลย จาก Google Maps
ป้ายทางเข้า วัดถ้ำประกายเพชร



ทางเข้าไปยังวัดถ้ำประกายเพชร

เมื่อทีมงานเดินทางมาถึงวัดถ้ำประกายเพชรแล้ว ก็ไปกราบพระกันก่อนค่ะ รอบๆวัดนั้น จะมีรูปปั้นของพญานาค และ ลานปฏิบัติธรรมกว้างขวางพอสมควรค่ะ และมีลิงตัวน้อยห้อยโหนบนถ้ำ และบนต้นไม้เต็มไปหมดเลย ซึ่งการลงไปยังถ้ำนั้น จะมีพระอาจารย์พาเที่ยวชมภายในถ้ำประกายเพชรค่ะ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ไฟฉาย นั่นเองค่ะ ทางทีมงานของเราก็ไม่พลาดที่จะพกมาด้วย เป็นอาวุธสำคัญในการชมถ้ำเลยก็ว่าได้



กราบพระกันก่อนค่ะ

เมื่อพระอาจารย์มาถึงแล้วก็ได้อธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับถ้ำประกายเพชร และสัญลักษณ์ของรูพญานาค ที่มีลักษณะเป็นรูปวงกลม 2 วงข้างๆกัน จากนั้นก็เริ่มไปชมถ้ำกันเลยค่ะ



ลักษณะของรูพญานาค

ก่อนลงไปยังถ้ำนั้นต้องถอดรองเท้าก่อน ก็แอบมีกังวลว่า เฮ้ยย!! จะเหยียบอึ๊ค้างคาวไหมเนี่ย 5555 เพราะเคยไปสัมผัสการเหยียบอึ๊ค้างคาวมาจาก ถ้ำผาปู่มาแล้ว ก็รู้สึกจั๊กจี้เท้าแปลกๆ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อเก็บภาพมาให้ได้ชมกัน แอดมินทำได้ 5555



ทางลงถ้ำประกายเพชร (ต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ)

พอลงมาแล้ว เอ๊ะ ไม่มีเศษอึ๊ค้างคาวสักนิด ไม่มีแม้แต่เศษดินตามทางเดินเลยค่ะ สะอาดมากๆ พระอาจารย์นำเราไปกราบพระก่อน เพื่อถือเป็นการบอกกล่าว ว่าจะมาเก็บภาพ หรือหากมีการเสียงดังหรือพูดอะไรที่ไม่ดีออกไปทั้งโดยตั้งใจก็ดีหรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี ก็เป็นการขอขมาลาโทษนั่นเองค่ะ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายจุดเลยค่ะ



พระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในถ้ำ

ลักษณะหินภายในถ้ำ ก็จะสมกับชื่อเลยค่ะ เป็นประกาย คล้ายเพชรระยิบระยับเต็มไปหมด เป็นมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เราได้ชมกัน แม้แต่ไห ยังมีประกายเพชรเลย เมื่อใช้ไฟส่องก็จะเห็นแสงระยิบระยับ สุดยอดจริงๆค่ะ



หินที่มีประกายเพชรระยับระยับสวยงาม

หินในถ้ำก็จะมีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ทั้งสวยงาม และแปลกตา แต่ก็ยังไม่วายเป็นประกายเต็มไปหมดค่ะ



ลักษณะของหินที่แตกต่างแปลกตา ภายในถ้ำประกายเพชร


และนี่ก็คือฝีมือของมนุษย์เรานี่เองค่ะที่ทำลายธรรมชาติ

เมื่อเดินเข้าไปแล้ว พระอาจารย์ก็พาลอดเข้าไปดูหินงอกค่ะ ซึ่งจุดนี้เพดานถ้ำจะต่ำหน่อย ต้องลอดไป
ลอดไปดูหินงอกค่ะ
จุดที่ลอดไปดูหินงอกนั้นไม่ต่ำเท่าที่ควรค่ะ เพราะแอดมินตัวเตี้ย เลยสบาย ส่วนคนตัวสูงก็คงลำบากหน่อย 5555 หินงอกที่นี่จะงอกออกมาคล้ายๆกับหลอด และไส้เดือนในเวลาเดียวกันค่ะ แปลกตามากๆ ปกติแอดมินเคยเห็นแต่แบบคล้ายปะการัง
หินงอกที่งอกออกมาคล้ายไส้เดือนเผือกค่ะ 55555
ตรงนี้จะเป็นหินย้อยที่ย้อยลงมาจากเพดานค่ะ ใช้เวลานานมากๆที่จะย้อยแบบนี้ จะมีหยดน้ำด้วย หากเราไปถ้ำที่ไหน ถ้าเห็นแบบนี้ก็ไม่ควรใช้มือไปสัมผัสนะคะ เพราะว่าน้ำจะหยุดไหล คนอื่นๆที่มาดูหลังๆ หรือรุ่นหลังๆก็อาจจะไม่ได้เห็นแบบนี้นั่นเองค่ะ
หยดน้ำจากหินย้อย
เมื่อเดินไปสักพักก็จะเห็นค้างคาวจำนวนหนึ่งค่ะ ไม่เยอะเหมือนถ้ำอื่นๆ กำลังห้อยโหน อยู่ที่เพดานถ้ำ ไม่ได้บินมาฟาดฟันศีรษะเราแต่อย่างใด 55555 (อยากชมค้างคาวนับล้านตัวต้องไปชมที่ถ้ำผายานะคะ) แต่ที่แปลกคือ ไม่ได้กลิ่นของอึ๊ค้างคาวเลยสักนิด และภายในถ้ำไม่มีทางผ่านของลมเลย แต่ไม่รู้อึดอัด สามารถหายใจได้สะดวกถึงแม้ว่าจะลงไปลึกแค่ไหนก็ตามค่ะ แถมยังรู้สึกเย็นชื่นใจ ราวกับว่าอยู่ในห้องแอร์
แบทแมนภายในถ้ำค่ะ
เมื่อผ่านจุดนี้ไปแล้ว เราก็ได้ไปชมรูพญานาคค่ะ ลักษณะเป็นรูที่ลึกลงไป จุดนี้พระอาจารย์บอกกับเราว่า เป็นจุดเดียวที่จะร้อน ซึ่งไปแล้วรู้สึกร้อนจริงๆค่ะ ทั้งร้อนและก็อึดอัด หายใจไม่สะดวกเลย ทีมงานจึงรีบชมแล้วรีบเดินออกมาค่ะ
รูพญานาค ที่ลึกมากๆค่ะ
แอดมินขอปิดท้ายด้วยรูปน้ำตกประกายเพชร ที่มีลักษณะเหมือนน้ำตก หรือน้ำที่ไหลลงมาจากโขดหิน และน้ำที่ไหลลงมานั้นก็มีประกายเพชรด้วย ข้างล่างก็จะเป็นแอ่งที่เกิดจากธรรมชาติค่ะ
และแน่นอนว่าเมื่อเรามาเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว เราก็ต้องรักษาธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ ไม่ควรขีดเขียนหรือทำลาย เพื่อที่จะได้คงอยู่ให้รุ่นลูกรุ่นหลายได้ชมกันค่ะ
อ้อ...และก่อนกลับ พระอาจารย์ก็ได้บอกว่า ถ้ำจะปิดในช่วงเดือน มิถุนายน ถึง เดือนธันวาคม หรือในช่วงหน้าฝนค่ะ เนื่องจากจะมีน้ำภายในถ้ำเต็มไปหมด และให้ธรรมชาติรักษาตัวมันเอง ในการชมถ้ำนั้น ในแต่ละปี ก็จะได้ชมสิ่งที่แปลกใหม่ เพราะจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาตินั่นเองค่ะ (ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่แกลอรี่นะคะ)
หมายเหตุ :บทความภายในอาจมีเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณาในการอ่านนะคะ ^_^