ชาวเชียงคานแสดงเจตนารมณ์ ชูภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นจุดแข็งการท่องเที่ยว เตรียมพัฒนาเป็นต้นแบบเมืองน่าอยู่เมื่อเวลา 18.00-21.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ที่ลานวัฒนธรรม หน้าวัดท่าคก ถ.ชายโขง อ.เชียงคาน จ.เลย มีการจัดโครงการ
“ ปลุกใจคนสามวัย ไทเชียงคาน สืบสานวัฒนธรรมภูมิปัญญา”จัดโดยกลุ่มหน่อไม้หวาน กลุ่มวัฒนธรรมวิถีเชียงคาน เครือข่ายจัดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยมีกิจกรรมการแสดงผลิตด้านภูมิปัญญาของท้องถิ่น อ.เชียงคาน การแสดงศิลปวัฒนธรรม ฟ้อนรำเบิ่งโขง การแสดงเต้นผีขนน้ำ โดยได้เดินขบวนฟ้อนรำไปตามถนนคนเดิน นายปริพนธ์ วัฒนขำ ประธานกลุ่มหน่อไม้หวาน กล่าวว่า ด้วยกลุ่มกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชน “หน่อไม้หวาน” จ.เลย ได้จัดกิจกรรมโครงการ “ปลุก-แปง(สร้าง)-ปั้น(รู้-ทำ-นำสุข)” Spark U ปลุกใจเมือง ห้วงเดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (ศสส.) มีวัตถุประสงค์เปิดเวทีส่งเสริมเยาวชนได้แสดงออกทางความคิด,แนวทางการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคม,สืบค้นภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกทั้งปลูกฝังเยาวชนให้เกิดความภาคภูมิใจในรากเหง้าศิลปวัฒนธรรมชุมชน ประเพณีอีสานที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ได้มีการจัดเวทีระดมความคิดเห็นของเยาวชนต่อการมีส่วนร่วมพัฒนาจังหวัดเลยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องให้เป็นต้นแบบเมืองน่าอยู่
ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนจังหวัด จากหลากหลายกลุ่มจึงเกิดประกายแนวคิดร่วมกันว่า จังหวัดเลยควรจัดสรรพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคนในทุกระดับทุกแขนง ที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์, ภูมิปัญญา, วิชาชีพที่ประสบความเร็จ อีกทั้งเชิดชูให้กำลังใจกันและกันอันจะนำไปสู่การวางแผนเป้าหมายในชีวิตจริงได้ เพื่อสร้างสังคมที่เป็นสุข โดยอำเภอเชียงคานเป็นหนึ่งในพื้นที่ดำเนินโครงการ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรอำเภอเชียงคานเป็นหนึ่งในพื้นที่ดำเนินโครงการ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ซึ่งมีกลุ่มเยาชน วัยกลางคน ผู้สูงอายุได้ร่วมกันออกไปสืบค้นแหล่งที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ที่ซ่อนตัวอยู่ตามชุมชน เช่น ไอศกรีมโบราณตาเติบ การร้องผญาแบบดั้งเดิม การทำผาสาดลอยเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเชียงคาน และเป็นการปลุกจิตสำนึก สร้างความภาคภูมิในคุณค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มคนสามวัยไทเชียงคานได้อ่านเจตนารมณ์และยื่นต่อนายบรรพต ยางฟอง นายอำเภอเชียงคาน ซึ่งเจตนารมณ์ดังกล่าวระบุว่า ขอสนับสนุนการทำงานของภาครัฐที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้เมืองเชียงคานก้าวไปอย่างมีทิศทางอย่างจริงจัง จริงใจ และปราศจากการครอบงำทางการเมืองของยุคสมัย ซึ่งถือเป็นการเปิดพื้นที่ให้ภาคส่วนต่างๆในสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างสังคมที่เป็นธรรมให้งดงาม โดยขอให้มีการจัดการพื้นที่สาธารณะอย่างเหมาะสม เช่น บริการสาธารณะรับ-ส่งนักท่องเที่ยวสร้างให้เกิดรายได้ของคนท้องถิ่น, สถานที่จอดรถของนักท่องเที่ยวควรเป็นพื้นที่ส่วนกลาง, จุดบริการข้อมูลแนะนำด้านการท่องเที่ยวเมืองเชียงคาน, ห้องน้ำสาธารณะ, แหล่งท่องเที่ยวภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น ขอให้จัดระบบข้อมูลและส่งเสริมการสืบค้นภูมิปัญญาวิถีอย่างจริงจัง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชนเชียงคานเพื่อให้เยาวชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และถ่ายทอดความเป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมเชียงคานได้ และขอให้มีการส่งเสริมพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สินค้าภูมิปัญญา สร้างคุณค่าและรายได้ความภาคภูมิใจในวิถีของคนเชียงคานอย่างแท้จริง
ด้านนายอำเภอเชียงคาน กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ตรงกับหลายๆกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เคยเสนอมาก่อนหน้านี้ เช่น การจัดระเบียบที่จอดรถนักท่องเที่ยว การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หรือการจัดระเบียบการจราจรในเขตเทศบาลตำบลเชียงคาน ซึ่งตนจะได้นำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกลุ่มคนสามวัยไทเชียงคานต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของโครงการ ผู้ร่วมกิจกรรมได้ยืนจุดเทียนและดอกไม้ไฟเรียงแถวเป็นเลข ๙ ไทย เพื่อถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระมหาปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตฯ.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เลย