รวมที่เที่ยวเชียงคาน โปรแกรมเที่ยวเชียงคาน ไปไหนได้บ้างนะ"เชียงคาน"เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม บ้านเก่าแก่ที่ชาวเชียงคานอนุรักษ์ไว้ มีนักท่องเที่ยวถามมาเยอะมากเลยค่ะ ว่าถ้าไปเชียงคานแล้ว มีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ขอบอกเลยว่า เยอะและครบรสมากๆ ไม่ว่าจะช้อป ชิลล์ ไหว้พระ ซื้อของฝาก ชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม และอื่นๆอีกมากมาย จะมาเที่ยวเป็นกลุ่ม กับคนรัก กับเพื่อน กับครอบครัว หรือจะมาเที่ยวเชียงคานคนเดียวด้วยตัวเอง ก็ปลอดภัยหายห่วงเลยค่ะ เพราะผู้คนที่เชียงคานน่ารัก และใจดีมากๆ
และการเที่ยวเชียงคานแบบไม่มีรถ ก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะสามารถนั่งรถประจำทางมายังเชียงคานก็ง่ายนิดเดียว อาจจะมาต่อรถที่ บขส. นครชัยจนส่ง รถ กรุงเทพ-เชียงคาน ระยอง-เชียงคาน ก็คอยให้บริการอยู่ หรือใครอยากนั่งรถสองแถว เลย-เชียงคาน กินลม ชมวิว ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
1. ถนนคนเดินเชียงคานกับภาพบ้านไม้ที่เรียงราย ร้านค้าที่ขายสินค้าอย่างหลากหลายสองฝั่งข้างทาง พร้อมกับแสงสียามค่ำคืนที่สว่างไสว ตลอดถนนคนเดิน ที่สำคัญยังมีถนนให้ชมความงดงามของบรรยากาศริมโขง พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าผ่านแม่น้ำโขง ขอบอกว่าสวยงามมากจริงๆค่ะ และถ้านักท่องเที่ยวตื่นแต่เช้ายังมีการใส่บาตรข้าวเหนียวที่เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเชียงคาน ที่มีความคล้ายกันกับเมืองหลวงพระบางอีกด้วย
2. ภูทอกจุดชมทะเลหมอกยอดฮิตในอำเภอเชียงคาน ที่ใครไปแล้วต้องไม่พลาด ในการขึ้นชมทะเลหมอกนั้น บอกเลยค่ะว่า เป็นการวัดดวงอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสภาพอากาศในแต่ละวันนั้นไม่เหมือนกันนั่นเอง แอดมินเคยไปกับทีมงานโกทูเลย ก็ต้องขึ้นถึง 2 วันเลยทีเดียวค่ะ ถึงได้ชมกับทะเลหมอก เหมือนสวรรค์บนดิน ค่าขึ้นนั้นก็เพียงแค่ คนละ 25 บาทเท่านั้นเองค่ะ
3. พระพุทธบาทภูควายเงินในบริเวณวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ ก็คือรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า (หินลับมีด) ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยแตก แต่ไม่มีอักษรจารึกขนาดกว้างประมาณ 1 ศอก ยาวประมาณ1 วา รูปลักษณะเหมือนรอยพระพุทธบาทจริง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 นอกจากนี้ยังมีพระเจ้าใหญ่พุทธฉัพรรณรังสีพระพุทธ รูปปูนปั้นสีขาวองค์ใหญ่และตามพระวรกายยังประดับด้วยกระจกเงาชิ้นเล็กๆ ให้ได้สักการะและสิ่งที่โดดเด่น สะดุดตาต่อผู้มาเยือนอีกสิ่งหนึ่งก็คือ ปูนปั้นรูปควายเงินที่ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถทางเข้าวัดนั่นเอง และภายในวัดมีกระต่ายเต็มไปหมด นับว่าเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆมากเลยค่ะ
4. แก่งคุดคู้กับตำนานที่เล่าว่า นายพรานชื่อ "ตาจึ่งขึ่งดังแดง" มีร่างกายใหญ่โต วันหนึ่งนายพรานพยายามยิงธนูไล่ล่าควายเงิน แต่ทำอย่างไรก็จับไม่ได้เสียที จะยิงควายก็ยิงพลาดไปโดนภูเขา จนภูเขาถล่มลงมากลายเป็นหน้าผา ชื่อว่า "ผาแบ่น" เมื่อสบโอกาสเจ้าควายกำลังกินน้ำ นายพรานโก่งธนูเตรียมพร้อมยิงทว่ามีเรือผ่านมาพอดี ทำให้ควายตกใจหนีขึ้นภูเขา นายพรานโกรธมาก เลยวางธนูและไปขนก้อนหินมาเพื่อขวางมิให้เรือสัญจรได้ เกือบจะสำเร็จบังเอิญมีสามเณรรูปหนึ่ง เห็นว่านายพรานทำให้ชาวเรือเดือดร้อน จึงออกอุบายให้นายพรานใช้ไม้เฮี้ย (ไม้ไผ่ทำข้าวหลาม) มาหาบหิน แต่ไม้เฮี้ยรับน้ำหนักหินไม่ไหว จึงบาดคอนายพรานตายคุดคู้อยู่บริเวณนั้น (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
ที่แก่งคุดคู้นี้เองมีบริการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมสองฝั่งโขงและหมู่บ้านใกล้เคียง นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าเรือของแก่งคุดคู้ ที่แก่งคุดคู้นั้นในช่วงน้ำลดจะมองเห็นแก่งคู้และมีร้านค้าที่ลงไปขายอาหารบริเวณแก่ง ได้บรรยากาศมากค่ะ และด้านบนมีร้านที่ระลึกเรียงรายเต็มไปหมด เป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่สำคัญมะพร้าวแก้ว เกรดเอ หอม นุ่ม อร่อยมากๆ ต้องมาชิมให้ได้เลยนะคะ
5. ล่องเรือชมแม่น้ำโขงเมื่อมาเยือนที่เมืองริมฝั่งโขงกันแล้ว ถ้าไม่ล่องเรือก็จะถือน่าเสียดายมากๆเลยค่ะ แอดมินก็ได้หาข้อมูลในการล่องเรือมาฝากทุกๆคนกันด้วย
- จุดบริการเรือนำเที่ยว(แก่งคุดคู้)ค่าบริการ 800 บาท/ชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงจะอยู่ที่ 400 บาทค่ะ
สนใจติดต่อได้ที่ ลุงอึ่ง เบอร์โทรศัพท์ 088-7293528
-
จุดบริการเรือนำเที่ยว(ท่าเรือ)ค่าบริการ 800 บาท/ชั่วโมง
สนใจติดต่อได้ที่ พี่เน็ต เบอร์โทรศัพท์ 098-8914265
6. พระใหญ่ภูคกงิ้วขึ้นเขาชมพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร (พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์) ที่ใหญ่เด่นเป็นสง่า จุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกแห่งหนึ่ง ณ บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ซึ่งจะมองเห็นแม่น้ำทั้งสองสายที่มาบรรจบกัน นั่นก็คือ แม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองนั่นเองค่ะ และระหว่างทางขึ้นจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆอีกด้วย
7. หน้ากากผีขนน้ำบ้านนาซ่าว ชาวบ้านเชื่อกันว่า ผีขนน้ำเป็นวิญญาณของสัตว์จำพวก วัว ควาย ที่ตายไป บ้านนาซ่าวจะการเล่นผีขนน้ำในเดือนหกของทุกปี เพื่อขอฝน จึงเรียกว่า "ผีขนน้ำ" หรือก็คือ ขนน้ำมาจากฟ้า หน้ากากของผีขนน้ำทำมาจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้จากต้นตีนเป็ด ไม้จากต้นนุ่น แล้วทำลวดลายเป็นหน้าผี พร้อมวาดลวดลายให้น่ากลัวยิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันนิยมนำเศษผ้ามาคลุมซะลอมสำหรับสวมศีรษะ เพราะสะดวกและรวดเร็วว่า
อย่างไรก็ตาม บนหน้ากากของผีขนน้ำจะต้องมีลายผักแว่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าดอกบัวเครือ เนื่องจากในอดีต ชาวบ้านจะนำผักแว่นมาพันรอบๆใบหน้าและศีรษะ ไม่ใช่การระบายสีเหมือนปัจจุบัน (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) แต่ก็อยากให้ทุกๆคนทราบนะคะว่า ผีขนน้ำ กับผีตาโขน ไม่ใช่อันเดียวกัน อย่าสับสนนะคะ ^_^
8. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด ชาวไทดำเป็นกลุ่มชาวไทที่เคยตั้งรกรากอยู่ในเขตเวียดนามเหนือ ว่ากันว่าชาวไทดำที่บ้านนาป่าหนาดเป็นชนชั้นราชวงศ์ของชาวไทดำ ศิลปวัฒนธรรมของชาวไทดำนั้นงดงามและน่าสนใจ โดยเฉพาะ "ตุ้มนกตุ้มหนู" หรือดอกไม้ไทดำที่ใช้เป็นเครื่องบรรณาการในพิธีแซปางไทดำ แก่ "ผีฟ้า" ผู้ปกปักรักษาชาวไทดำให้อยู่เย็นเป็นสุข และผ้าทอมือลายนางหาญ ที่มีตำนานเล่าขานและใช้ประกอบพิธีเสนเรือน (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) และที่พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทดำนั้น นักท่องเที่ยวสามารถแต่งกายไทดำเพื่อถ่ายรูปท่ามกลางธรรมชาติได้อีกด้วยค่ะ
9. ปิดท้ายด้วยการไหว้พระ 9 วัดในอำเภอเชียงคานเลยค่ะ
วัดที่ 1 วัดท่าคกชมพระอุโบสถก่ออิฐปูน ศิลปะล้านช้าง
วัดที่ 2 วัดศรีพนมมาศ (วัดโท่ง)ชมความร่มรื่นของวัด กราบไหว้พระวัดป่า
วัดที่ 3 วัดป่าใต้ชมพระอุโบสถเก่าแก่แบบหลวงพระบาง
วัดที่ 4 วัดมหาธาตุชมวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคาน
วัดที่ 5 วัดมัชฌิมาราม (วัดป่ากลาง)วัดที่ 6 วัดสันติวนารามป่าสงบเงียบเหมาะแก่การนั่งวิปัสสนากรรมฐาน
วัดที่ 7 วัดภูช้างน้อยจุดชมภูมิทัศน์ที่สวยงาม
วัดที่ 8 วัดโพนชัยชมอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมล้านช้าง ผสมสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์
วัดที่ 9 วัดศรีคุณเมืองชมศิลปะแบบล้านนาและล้านช้าง
และนอกจากนี้ยังมีวัดท่าแขก ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ พ.ศ.2209 พระประธานในวัดเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประมาณ 300 กว่าปี แกะสลักด้วยหินทั้งก้อน รวมทั้งหมดมี 3 องค์ ด้วยกัน (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
{mapที่เที่ยวเชียงคานmap}
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการแนะนำการท่องเที่ยวในอำเภอเชียงคาน พอทราบแบบนี้ อย่าลืมแพลนโปรแกรมมาเที่ยวเชียงคานกันนะคะ ไม่ว่าจะ 2 คืน 1 วัน หรือ เอาแบบจัดเต็มตามโปรแกรมที่แอดมินแนะนำ อาจจะเป็น 3 วัน 2 คืน ก็ได้เหมือนกันค่ะ จะเที่ยวเชียงคานหน้าหนาว หน้าฝน หน้าร้อน ก็จะได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่จะไม่เปลี่ยนนั่นก็คือ ความอบอุ่น และผู้คนที่ใจดีที่นี่ แล้วคุณจะหลงรักเชียงคานค่ะ ^_____^