สัมผัสบรรยากาศบนยอดภูเขาที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ

การรีวิวภูเรือครั้งนี้ แอดมินตั้งว่า "ก่อนฝนพรำ ที่ภูเรือ" นั่นก็เพราะว่า ทีมงานโกทูเลย ได้ไปสัมผัสบรรยากาศในฤดูฝนนั่นเองค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ฝนตั้งเคล้า แลดูจะตกอยู่แล้ว มาดูกันว่า ไปช่วงฤดูฝน อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีอะไรให้เราได้ชมบ้าง
(อ่านตำนาน และรายละเอียดภูเรือได้ที่นี่)

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย สำหรับการเดินทางนั้น ทีมงานโกทูเลย เริ่มเดินทางจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ใช้เส้นทาง หมายเลข 21 ถนนเลย-ด่านซ้าย ไปยังอำเภอภูเรือ และใช้รถยนต์ส่วนตัว เดินทางขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติภูเรือค่ะ ค่าใช้จ่ายในการขึ้นไปนั้น อยู่ที่ 110 บาท (2 คน)



ระหว่างทางมีรถสวนทางกับเราบ้าง 2-3 คันได้ค่ะ ข้างทางก็มีป่า เขียวชะอุ่มเลยทีเดียว พร้อมกับท้องฟ้าที่เหมือนจะบอกเราว่า "ฝนจะตกแล้วนะ" อาจต้องแข่งกับเวลาหน่อยเนื่องจากครั้งนี้ไปลุยกันแค่ 2 คน แต่ก็ต้องระมัดระวังในการขับรถด้วยค่ะ



เมื่อมาถึงแล้ว มีร้านค้าอยู่ร้านเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่ใช่เป็นช่วงไฮท์ซีซั่น นักท่องเที่ยวจะไม่เยอะค่ะ จอดรถปุ๊บ ก็หันไปเห็นรถ 2 แถว กำลังจะออก เราก็รีบวิ่งเลยค่ะ กลัวจะไม่ทัน 55555



ระหว่างนั่งรถสองแถวเพื่อไปยังยอดภูเรือนั้น รู้สึกได้เลยว่า อากาศเริ่มเย็น สดชื่นมากกก บวกกับลมที่ตีใส่หน้า มันทำให้รู้สึกดีจริงๆเลยค่ะ มีนักท่องเที่ยวที่นั่งรถสองแถวคันเดียวกับเรา 2 คน มีพูดคุยกันระหว่างทาง ก็ถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อยค่ะ



ถึงยอดภูเรือแล้ววว พอขึ้นมาถึงข้างบนปุ๊บ เป็นอารมณ์ที่ เงียบเหงา และเปล่าเปลี่ยวมาก มันเงียบจริงๆ ไร้วี่แววทั้งท่องเที่ยว มีเพียงแค่ทีมงานโกทูเลยกับแอดมินก็ 2 คน และนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาพร้อมกันอีก 2 คน รวมเป็น 4 คนค่ะ ยอดภูเรือวันนี้เป็นของเรา 55555 และสิ่งที่ทำให้หนักใจที่สุดเลยก็คือ ฝนใกล้จะตกแล้ว และลืมเอาร่มติดมือมาด้วย แอดมินเลยต้องเร่งไปเก็บภาพแต่โดยไว



จุดแรกเมื่อลงรถแล้วนั้น เรามุ่งหน้าไปที่ ป้ายที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านว่า "อุทยานแห่งชาติภูเรือ" จุดนี้มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจน ลมเย็นมากเลยค่ะ เพราะจุดนี้จะเป็นพื้นที่ค่อนข้างที่จะโล่งหน่อย



ต่อไปเป็นจุดชมวิว ตรงนี้เป็นลานกว้างมาก ค่อนข้างที่จะแข็งแรงและมั่นคง สามารถยืนเก็บภาพได้หลายคนเลยทีเดียว แต่เนื่องจากมีแค่ทีมงานโกทูเลย เรา ก็ได้เก็บภาพกันแบบอิ่มหนำ ชิลล์ๆ กันไปเลยยย



ถัดออกมาอีกก็เป็นจุดชมวิวเช่นกันค่ะ แค่จะมีป้าย "ภูเรือ" อยู่ ซึ่งจุดนี้ก็สวยมาก วิวด้านหลังเป็นวิวเดียวกัน แต่จะได้อีกอารมณ์หนึ่งค่ะ



เมื่อเดินขึ้นมาอีก จะมีลานกว้าง และม้านั่งให้นั่งพักยาวจนถึง ศาลาชมวิวค่ะ และที่ด้านหลังจะมีป้าย "ยอดภูเรือ" ให้เก็บภาพ



ถ้ามายอดภูเรือแล้ว ไม่ได้เก็บภาพจุดนี้ ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ แอดมินเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ อากาศที่เย็นมาก บนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ในวันที่ไม่มีนักท่องเที่ยว นี้มันเงียบเหงามากๆเลยค่ะ



เมื่อมองดูป้าย หากเดินไปทางด้านขวาตามลูกศร จะเป็น ผาหญ้าไผ่ ตามป้ายไปกันค่ะ



ระหว่างเดินๆอยู่นั่น พี่สังข์ทีมงานโกทูเลยของเรา ก็ร้อง จ๊ากก พร้อมกับกระโดด เหมือนเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้จิตแอดมินแทบเตลิด 5555 และสิ่งที่เห็นนั่นก็คือ ไส้เดือน นั่นเองค่ะ ตัวใหญ่และยาวมากกกก ที่ตกใจก็เพราะนึกว่าเป็นงูน้อย แต่ความจริง ไม่ใช่ 55555



ถึงแล้วค่าา ผาหญ้าไผ่ จุดนี้จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกค่ะ มองไกลออกไปเห็นแสงที่ส่องผ่านเมฆกระทบสู่พื้น มันสวยมากจริงๆ จนต้องร้อง ว้าวว ออกมา และอ่านป้าย ลูกศรก็ชี้ออกไปอีก ว่ามี สวนหินสระสวรรค์ อีก 100 เมตร เอ้า! ตามป้ายไปชมสวนหินสระสวรรค์กันค่ะ




ระหว่างที่แอดมินเก็บภาพไปตามทางนั้น 2 ข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้บานสพรั่งสวยงามมากเลยค่ะ เป็นดอกเล็กๆ เรียงรายตามทาง จากที่ชมความงดงามของดอกไม้อยู่นั้น เงยหน้ามองอีกที พี่สังข์เดินห่างไปไกลมากแล้ว แถมทั้งสองข้างทาง ก็เต็มไปด้วยป่า ไม่ได้มีทางเดินที่สะดวก เราต้องเดินล่องลอยเดิมตามทางไปค่ะ "รอหนูด้วยยยย"




และแล้วก็มาถึง "สระสวรรค์" แล้วค่าาา มองผ่านๆ ก็เหมือนสระธรรมๆทั่วไป แต่พอไปดูใกล้ๆ โอ้โหหห น้ำใสมากก ใสจนมองเห็นปลาได้ชัดเจน ซึ่งสระนี้ห้ามจับปลาเด็ดขาดเลยนะคะ มีป้ายเขียนเตือนเอาไว้ที่ด้านหลังด้วยค่ะ แอดมินแวะเก็บภาพสักพักใหญ่ๆ เพราะชอบอะไรที่เป็นน้ำมากๆ มันทำให้รู้สึกสดชื่น จากที่เดินมาเหนื่อยๆ นั่นเองค่ะ



จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับมาทางแยก เพื่อที่จะเดินกลับไปยังรถสองแถว หากตรงไปก็จะกลับไปทางยอดภูเรือ หรือทางเดิมที่เดินผ่านมา และไปทางขวา แอดมินเองก็ไม่ทราบค่ะว่า มันจะไปโผล่ทางไหน แต่คาดว่าน่าจะเป็นทางออก และเมื่อเราสงสัยว่ามันจะไปไหน เราก็ต้องลองไปดูค่ะ (เป็นความคิดที่อันตรายมาก อาจหลงได้นะคะ 55555)

และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะทุกท่าน เราได้ยินเสียงรถ วิ่งผ่านไป ในใจนี้ตระหงิดๆ หันไปมองหน้าพี่สังข์แบบแปลกๆ แล้วก็อุทานออกมาว่า "ซวยแล้วว!! รถไปแล้ววว!!" เราตกรถค่ะท่านผู้โชมมมมม T________T
555555 ตกรถว่าแย่แล้ว ฝนก็กำลังจะตกนี้แย่กว่าเยอะ ไหนจะกล้องอีก ต้องรีบเร่ง จ้ำอ้าวกันอย่างเร็ว มีถามกันว่า เราจะรอรถเที่ยวต่อไป ที่จะมาส่งนักท่องเที่ยวหรือเปล่า แต่มาคิดๆดู ช่วงนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ไม่รู้ว่ารถจะขึ้นมาอีกตอนไหน แถมฝนก็ใกล้จะตกแล้วด้วย จึงตัดสินใจ เดินค่ะ เดินเท่านั้นนน เพื่อกลับไปยังรถของเรา



ระหว่างที่เดิน อากาศก็เย็นสบาย ชมวิวทิวทัศน์กันตามทาง มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เราได้เจอกับปราสาทหินเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวมาตั้งหินกันระหว่างทาง และท้องฟ้าที่สื่อให้เห็นว่า ฝนกำลังตั้งเคล้ามาแล้วนะ และสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดที่สุด มันก็เริ่มเทลงมาค่ะ ฝนเริ่มลงเม็ด ตอนนี้ไม่รอช้า วิ่งกันสิคะ รออะไร เราวิ่งประมาณ 200 เมตรได้ ก็ถึงรถของเราค่ะ เล่นเอาแหบแฮ่กๆกันเลยทีเดียว นี่มันอะไรกันเนี่ย คิดไปก็ขำไป



เราขับรถกลับไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว บริเวณสำหรับกางเต็นท์เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก็สรุปได้ว่า

การท่องเที่ยว
- นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ได้ทุกช่วงฤดู ไม่จำกัดเลยค่ะ เพราะในแต่ละฤดูเราก็จะได้ชมความงดงามที่แตกต่างกันออกไปนั่นเองค่ะ

การกิน
- ในการกินนั้น ร้านอาหารจะเปิดบริการบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ในช่วงเดือนกันยายน หากขึ้นไปพักผ่อน หน้าร้อนหรือหน้าฝนต้องเตรียมอาหารขึ้นไปเองค่ะ

การพักผ่อน
- ค่าบริการเช่าเต็นท์อยู่ในราคา 225 บาท และชุดเครื่องนอน 60 บาท/คน
- ที่พักของทางอุทยานแห่งชาติภูเรือ เริ่มต้น ที่ 2000 บาทค่ะ
- กรณีนำเต็นท์มาเอง ค่าบริการ 30 บาท

เวลาทำการ
- 05.00 - 20.00 น.
- ใช้ไฟฟ้าได้ในระหว่าง 06.00 - 22.00 น.

เบอร์โทรศัพท์
088-5095299, 042-810965 อุทยานแห่งชาติภูเรือ

สำหรับทริปนี้ก็ ถึงแม้ว่าจะตกรถ แต่มันก็สนุกดีค่ะ มันตื่นเต้นดี ทุกอย่างแข่งกับเวลา แต่ก็มีความสุขมากๆ ครั้งหน้า ทีมงานโกทูเลย จะไปที่ไหน ฝากติดตามด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ ^____^