หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอริยสงฆ์แห่ง วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
ประวัติย่อ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
1. ท่านเกิดที่บ้านโคกมน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2444 ชื่อว่า บ่อ แก้วสุวรรณ มีพี่น้อง 4 คน ท่านเป็นลูกชายคนโต ที่มีนิสัยเด็ดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็ก ว่านอนสอนง่าย ช่วยเหลืองานบ้าน พูดน้อย ไม่ชอบคลุกคลีกับเพื่อน มีใจเป็นบุญไม่ชอบล่าสัตว์ ต่อมาครอบครัวท่านย้ายมาอยู่ที่บ้านหนองบัวบาน ต.เชียงพิณ จ.อุดรธานี อยู่ได้ 3 ปี พ่อของท่านก็ถึงแก่กรรม ขณะที่ท่านอายุได้ 11 ปี ภาระหนักช่วยดูแลครอบครัวจึงอยู่กับท่าน
2. ท่านอายุได้ 14 ปี มีพระธุดงค์ ชื่อพระอาจารย์พา เป็นญาติท่านมาเยี่ยมโยมแม่ ท่านได้ไปปรนนิบัติรับใช้ พระอาจารย์พาถามเรื่องใด ท่านมักตอบว่า "ชอบครับ" พระอาจารย์พาจึงเรียกท่านว่า "เด็กชายชอบ" ชื่อของท่านจึงเปลี่ยนเป็น ชอบ มาตั้งแต่นั้น
3. ท่านได้บวชเป็นผ้าขาวถือศีล 8 ออกติดตามพระอาจารย์พาไป พ.ศ.2462 อายุ 19 ปี พระอาจารย์พาได้ขออนุญาตโยมแม่ให้บวชเป็นสามเณาที่วัดบ้านนาแก ต.นากลาง จ.อุดรธานี พระอาจารย์พาได้พาท่านไปพักกับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
4. ท่านบวชเป็นสามเณรได้ 5 พรรษา อายุ 23 ปี พระอาจารย์พาได้พาท่านไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดสร้างโคก (วัดศรีธรรมาราม) จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2467 ได้รับฉายาว่า ฐานสโม ท่านถือธุดงค์วัตร 13 ข้อ ตั้งแต่พรรษาแรกที่บวช ใช้คำภาวนาพุทโธ จิตโลดโผน รู้เห็นสิ่งลึกลับได้ พ.ศ.2468 ท่านจำพรรษากับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่วัดสุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี พ.ศ.2469 ท่านจำพรรษาที่วัดศรีมงคลเหนือ จ.มุกดาหาร หลังออกพรรษาหลวงปู่เสาร์มาชวนท่านเดินธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาวลัดเลาะริมโขงไปภูเขาควาย เจอผีกองกอย มารบกวน กลับมาฝั่งไทยที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ท่านได้แยกกับหลวงปู่เสาร์ที่บ้านท่าดีหมี โดยท่านจะกลับไปบ้านหนองบัวบาน เพื่ออนุเคราะห์โยมแม่ของท่าน
5. ปี พ.ศ.2470 โยมแม่ของท่านอยากจะบวชเป็นแม่ชีท่านจึงพาไปบวชแม่ชีกับพระอาจารย์บุญ ปัญญาวุโธ ที่วัดป่าหนองวัวซอ และปีนี้ได้มีหลวงปู่หลุย จันทสาโร และหลวงปู่ขาว อนาลโย อยู่จำพรรษาด้วย ช่วงปี พ.ศ.2470 ท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่บ้านสามผง จ.นครพนม เวลาประมาณบ่ายสามโมงถูกหลวงปู่มั่นดุและว่าให้ไล่หนี ท่านว่าถูกฟ้าผ่าแล้งท่าน จึงไปพักที่วัดศรีวิชัย พอรุ่งเช้ามีครูบาเทสก์ เทสรังสี มาตาม พอไปถึงหลวงปู่มั่น ยิ้มให้พูดว่าพอบอกสอนได้อยู่ ท่านจึงดีใจมาก ได้พักอยู่กับหลวงปู่มั่นระยะหนึ่ง
6. พ.ศ.2471 โยมแม่เรียกที่กุฏิให้ไปดูพระนางมัทรีที่ศาลา พอท่านลงจากกุฏิไม่กี่ก้าวต้นไม้ใหญ่ล้มทับกุฏิท่านแหลกไปทั้งหลัง หลวงปู่หุลุย มาช่วยค้นหาท่านนึกว่าครูบาชอบตายแล้ว ไปดูที่ศาลาก็ไม่เห็นนางมัทรี
7. พ.ศ.2473 ท่านเดินทางไปพบหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ที่จังหวัดขอนแก่น ช่วยเผยแพร่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2474 หลวงปู่สิงห์กับท่าน และคณะเดินทางไป จ.นครราชสีมา และ พ.ศ.2475 ท่านช่วยสร้างวัดป่าสาละวันด้วย
8. พ.ศ.2476 ท่านเดินธุดงค์จาก จ.นครราชสีมา ถึงถ้ำนายม จ.เพชรบูรณ์ มีผู้เฒ่าผ้าขาวสำเร็จเป็นพระอนาคามีอยู่ด้วย ท่านนิมิตเห็นเทวดาถามตาผ้าขาวว่าท่านสำเร็จถึงขั้นไหน ตาผ้าขาวไม่ตอบให้ไปถามท่านเอง ทำให้ท่านรู้สึกอายอย่างมากท่านจึงทำความเพียรอย่างหนัก อดอาหาร 15 วัน อดหลับอดนอน 15 คืน ตาอักเสบไม่สามารถมองแสงสว่างได้ ร่างกายอ่อนเพลียจนมีเทพธิดามาถวายโอสถทิพย์ให้กับท่าน ท่านได้สนทนาธรรมกับตาผ้าขาวและปฏิบัติได้ปัญญา ดวงตาเห็นธรรม เชื่อมั่นพระพุทธศาสนาไม่สงสัยบรรลุพระโสดาบัน เป็นพระอริยะบุคคลชั้นต้นในพระพุทธศาสนา
9. ธุดงค์จากถ้ำนายมไป จ.เชียงใหม่ ตามหาหลวงปู่มั่น ระหว่างทางเวลากลางคืนพบเสือใหญ่ 2 ตัว มาดักทางข้างหน้าและข้างหลัง ท่านกลัวเสือมาก แต่มีสติ นึกพุทโธในใจให้สงบ เมื่อจิตถอนออกมาก็ไม่พบเสือเลย
10. พ.ศ.2477 พักอยู่กับหลวงปู่มั่นที่ป่าเมี่ยง จ.เชียงใหม่ ท่านนิมิตเห็น หลวงปู่อ่อน ญาณสิริและหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เดินทางมากราบหลวงปู่มั่นด้วย
11. พักอยู่กับหลวงปู่มั่นที่ถ้ำดอกคำ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ วันนั้นเวลาบ่าย 4 โมงเย็น ท่านนั่งสมาธิที่กุฏิ จิตสว่างไสวกลับวูบลง มีเสียงกึกก้องกัมปนาท ท่านส่งจิตออกนอกเห็นเทพยาดาทุกชั้นฟ้ามากราบหลวงปู่มั่นท่านจึงออกจากสมาธิเพื่อสรงน้ำหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นพูดว่า วันนี้เราได้บรรลุธรรมธาตุ ก้าวล่วงพ้นไปจากความทุกข์ทั้งมวลแล้ว ถ้าท่านอยากจะสำเร็จก็อย่าละความเพียร ที่ของท่านไม่ใช่เมืองไทยแต่อยู่เมืองพม่า
12. ที่บ้านป่าเมี่ยงท่านนิมิตเห็นพญานาคมิจฉาทิฐิ มาพ่นพิษใส่ในน้ำให้พระเณรใช้ เกิดการเจ็บป่วย ท่านได้แจ้งบอกหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นจึงได้แสดง ธรรมโปรดพญานาคจนคลายมานะทิฐิถอนพิษของจนไปจากน้ำทั้งหมด
13. หลวงปู่ชอบท่านธุดงค์ทางภาคเหนือท่านได้ไปพักกับครูบาเจ้า ศรีวิชัย และได้ช่วยกันบูรณะสร้างพระธาตุศรีวิชัย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
14. พ.ศ.2481 ท่านกับหลวงปู่พรม จิรปุญโญ เดินธุดงค์เข้าพม่าด้วยกันแต่หลวงปู่พรมจะไปที่เมืองมัณฑาเล หลวงปู่ชอบจะเข้าป่าภาวนาจึงได้แยกทางกัน พ.ศ.2483 จึงกลับมาประเทศไทยอยู่ที่บ้านแม่ระงอง จ.เชียงใหม่ นิมิตเห็นภูตผีย้ายครอบครัวมาจากภาคอิสาน
15. พ.ศ.2484 ท่านธุดงค์ไปพม่าครั้งที่ 2 มีพระสี พระสงข์ ตาผ้าขาวแหล่ไปด้วยท่านนิมิตเห็นวิญญาณเศรษฐีคำแสง มาบอกสมบัติเก่า ท่านจึงได้ไปดูจึงรู้ว่ามีอยู่จริงแต่ไม่ได้ไปเอาเพราะท่าน บวชมหานิพพาน ไม่ได้บวชมหาสมบัติ
16. เจอผีตายท้องกลมมารบกวนแต่มาทำอะไรท่านไม่ได้ ได้แต่จะปลุกปล้ำพระสี พระสังข์แทบไม่ได้เป็นอันภาวนาเลย และท่านได้แสดงธรรมโปรดวิญญาณทหารที่ยึดติดกับค่ายทหารให้ละความยึดถือไปเกิดเป็นมนุษย์ ที่บ้านกระเหรี่ยงดอยไม้แดงนี้ท่านได้ทำลาย กามราคะมองดูชายหญิงเป็นเพียงสมมติบรรลุเป็นพระอนาคามี
17. ที่พม่าท่านทำความเพียรอย่างหนัก และอดอาหารจากหลายสถานที่พบกับฤาษีตองฉู่ ฤาษีตองฉู่ได้ทำอาหารถวายท่าน ท่านฉันจนหมดเกลี้ยง ท่านนิมิตเห็นเทวดาตีฆ้องร้องป่าวประกาศ ร่วมอนุโมทนาบุญกับฤาษีตองฉู่ ท่านจึงบอกฤาษีตองฉู่ว่า ฝันว่าเทวดามาอนุโมทนาด้วยฤาษีตองฉู่ยินดียิ่งนัก
18. ที่พม่าจิตท่านหมุนเป็นธรรมจักร มีพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมาเยี่ยมและแสดงธรรมโปรด คือ พระมหากัสสปะ พระภากุละ และ พระอนุรุธทะท่านรู้สึกปิติ และอิ่มเอิบในธรรมเป็นอย่างมาก และหลวงปู่มั่นก็มาแสดงธรรมในสมาธิภาวนาเสมอ
19. พ.ศ.2487 อายุ 43 ปี พรรษาที่ 20 ท่านจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำหมีเก่า บ้านหนองยวนประเทศพม่าท่านนิมิตเห็นโยมแม่บ่อยมากท่านพิจารณารู้ว่าโยมแม่ป่วยหนักมากและถึงแก่กรรมแล้วท่านก็อนุโมทนาที่โยมแม่ตายคาผ้าขาว(แม่ชี) วันหนึ่งของเดือนสิงหาคม เวลา สามทุ่ม จิตของท่านสว่างไสว ท่านเห็นอวิชชา โลกธาตุ เกิดการระเบิดสั่นไหวทั้งจักรวาลดับสูญสิ้นอาสวะกิเลสจิตเป็นะรรมธาตุอยู่เหนือสมมติ การเกิดของท่านไม่มีอีกแล้ว มีแต่ปัจจุบันที่เป็นธรรมธาตุเท่านั้น ท่านสำเร็จได้ด้วยวิชชา 3 เป็นพระอรหันต์สาวกในสมัยปัจจุบัน ท่านว่าเคยเกิดเป็นพ่อค้าขายผ้า ชาวลาวมาทานผ้าขาวหนึ่งวาและเงิน 50 สตางค์ บูชาถวายพระธาตุพนม อธิฐานขอให้ได้บวชได้พ้นทุกข์
20. ออกพรรษาปี พ.ศ.2487 ท่านต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพราะภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะผลกรรมของท่านเกิดเป็นชาวพม่า มารบกับไทยแต่ยังไม่ได้ฆ่าใคร ก็อดอาหารตายเสียก่อนเพราะท่านไม่ยอมทำชั่วปล้นฆ่าชาวบ้านเหมือนเพื่อนท่าน ที่ทุกวันนี้ยังตกนรกอยู่ ไม่อย่างนั้นท่านคงยังไม่ได้มาเกิดมาบวช จนถึงทุกวันนี้ ระหว่างหลงทาง ท่านอดอาหารอยู่ 3 วัน จึงมีเทวดามาใส่บาตรและบอกเส้นทางกลับประเทศไทยได้สำเร็จ
21. พ.ศ.2488 หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน อยู่ด้วยกันที่วัดป่าห้วยน้ำริน จ.เชียงใหม่ เปิดธรรมธาตุให้กันฟัง หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาวได้ชวนหลวงปู่แหวน กลับภาคอิสาน แต่หลวงปู่แหวนบอกว่าถ้าผมยังไม่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผมจะยังไม่คิดกลับภาคอิสาน ที่วัดนี้มีพญานาคขึ้นมารักษาศีลวันอุโบสถ และถวายภัตตาหารกับท่าน
22. หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาวจะได้ไปวัดป่าบ้านหนองผือ จ.สกลนคร เพื่อกราบหลวงปู่มั่น ผ่านเทือกเขาภูพานท่านทั้งสอง ไม่มีน้ำใช้ น้ำฉัน สักครู่ก็มีน้ำผุดขึ้นมาจากผิว ดินเป็นลำธารจนท่านใช้และฉันเสร็จแล้วน้ำก็แห้งหายไปในดินเอง หลวงปู่ขาวถามว่าท่านชอบละซิ ท่านว่าเพียงแต่รำพึงในใจเท่านั้นว่า เทวดาไม่สงสารพระบ้างหรือ จะปล่อยให้พระอดน้ำตาย เมื่อถึงวัดป่าบ้านหนองผือ หลวงปู่ชอบท่านได้ช่วยงานหลวงปู่มั่น คือ ช่วยดูแลพระเณรไม่ให้คิดออกนอกลู่นอกทาง หรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง ท่านจะตักเตือนทันที และช่วยแสดงธรรมโปรดเทพเทวดา แทนหลวงปู่มั่น
23. พ.ศ.2492 ท่านอยู่ที่วัดป่าผาแด่น นิมิตเห็นหลวงปู่มั่นนิพพานแล้ว มาบอกให้ไม่ต้องไปงานศพท่านจึงไม่ได้ไปงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มั่น เพราะเชื่อฟังคำพระอาจารย์ พ.ศ.2493 มีงานประชุมสงฆ์ ที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ท่านลงมาจากวัดป่าผาแด่น ท่านและโยมเสาร์ (ที่ชายในอดีตชาติ) ข้ามไปไม่ได้เพราะมีน้ำป่าไหลหลากเต็มตลิ่ง ท่านยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งน้ำป่าก็แห้งลง ท่านและโยมเสาร์จึงเดินข้ามไปได้ไม่กี่ก้าวน้ำป่าก็ไหลทะลักอย่างบ้าคลั่งเต็มตลิ่งตามเดิม
24. หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโตมาประชุมสงฆ์ที่วัดเจดีย์หลวง ไม่รู้จักหลวงปู่ชอบ พอกลับกรุงเทพพักที่วัด บรมนิวาส ถามท่านพ่อลีวัดอโศการาม ว่าหลวงปู่ชอบเป็นใคร ท่านพ่อลีบอกว่านั่นลูกศิษย์มีอภิญญาสายหลวงปู่มั่น เท่านั้น หลวงปู่บุญฤทธิ์รีบเก็บบริขารจะไปจำพรรษากับหลวงปู่ชอบทันที เพราะเคยรู้ว่ามีพระอภิญญาสมัยพุทธกาล
25. พ.ศ.2501 ผู้ใหญ่ถัน วงษา ถวายที่ดิน ท่านเริ่มสร้างสำนักสงฆ์ เนื่องจากท่านเคยเกิดเป็นกวาง อยู่ที่บ้านวังม่วง ถูกยิงวิ่งหนีมาตายที่บริเวณแห่งนี้ท่านได้พาชาวบ้านรื้อหอศาลปู่ตา พาชาวบ้านทำวัตร สวดมนต์ทุกวัน พ.ศ.2503 ได้ใบตราตั้งเป็นวัดป่าสัมมานุสรณ์ พ.ศ.2514 ท่านเริ่มสร้างโบสถ์กลางน้ำ และท่านภาวนานิมิตเห็นกระดูกซีกซ้ายของท่านแตกละเอียด ท่านเริ่มมึน ชาแขนขาซีกซ้าย ทำให้ท่านเป็นอัมพาต ตั้งแต่นั้นมา พ.ศ.2518 ท่านเริ่มสร้างเจดีย์อยู่โบสถ์ขึ้น
26. พ.ศ.2524 ท่านสร้างวัดป่าโคกมนบริเวณป่าช้าวังหินโง้นเนื่องจากท่านเกิดเป็นหมีถูกยิงหนีมากินน้ำและตายที่หินโง้น ต่อมาหลวงปู่มั่นมาพักปักกลดที่หินโง้น ท่านจึงสร้างวัด เพื่อบูชาคุณหลวงปู่มั่น
27. ปลายปี พ.ศ.2537 ท่านเริ่มป่วย มีไข้ปอดขึ้น ได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชระหว่างทางที่จะมาละสังขารที่วัดท่านก็มรณภาพจากอาการน้ำท่วมปอด เป็นวันพระ แรม 8 ค่ำ ตรงกับวันที่ 8 มกราคม 2538 เวลา 11.38 น. รวมอายุได้ 94 ปี 71 พรรษา ตลอดมา ท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดษ รักษาธุดงค์วัตรด้วยดีคลอด ชอบอยู่โดดเดี่ยวในป่าเขา เป็นที่รักของเทพเทวดา อินทร์พรหม พญานาค และมนุษย์ทั้งหลาย ถ้าท่านไม่ป่วยเป็นอัมพาตก็ยากที่สาธุชนจะได้กราบและทำบุญกับท่าน มีงานพระราชทานเพลิงศพท่าน ณ เมรุ วัดป่าสัมมานุสรณ์ เมื่อจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 เจดีย์นี้สร้างคลอบบริเวณเมรุที่เผาศพสรีระสังขารท่าน และได้บรรจุอัฐิธาตุของท่านไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2547
ข้อมูลจาก : เจดีย์อนุสรณ์ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ณ วัดป่าสัมมานุสรณ์ ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
รูป
ภาพจาก :
http://palungjit.org