เกษตรกรปลูกแก้วมังกรป้อนตลาด สร้างรายได้หกแสนต่อปี
จากการที่ผลผลิตทางการเกษตรพืชสวน พืชไร่ และข้าวราราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรหันมาปลูกปลูกแก้วมังกรป้อนตลาด สร้างรายได้หกแสนต่อปี
นายมุ่งดี พรหมภูติ เลขที่ 6 หมู่ 2 บ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวมีที่ดินทำกิน 15 ไร่ เมื่อก่อนนั้นปลูกพืชไร่ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลังและลำไย แต่ภาวะทางเศรษฐกิจไม่ดี ประกอบกับภัยธรรมชาติและราคาผลผลิตตกต่ำมาก จึงหันมาปลูกแก้งมังกร เมื่อปี 2556 โดยเห็นว่าชาวบ้านหันมาปลูกกันมากขึ้นในช่วง5-10ปีที่ผ่านมา เพราะแก้วมังกรปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ศัตรูพืชโรคแมลงก็มีน้อยมากใช้ปุ๋ยคอก มูลสัตว์ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีที่ทำลายระบบนิเวศน์ จึงปลอดสารพิษอีกทั้งยังทนต่อสภาพอากาศ แล้ง ร้อน ฝนจะมีเนื้อขาวเปลือกแดงที่จะให้รสชาติหวานนิด ๆ อมเปรี้ยวหน่อย ๆผู้บริโภคนิยมรับประทานเหมือนแตงโม นำมาผ่าครึ่งแล้วใช้ช้อนตักรับประทานได้เลยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบี1วิตามินบี2วิตามินบี3ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น
ด้านการตลาดนั้นเปิดกว้าง เมื่อเก็บแล้วจะนำมาวางมาคัดที่บ้านและเตรียมไว้ที่หน้าบ้าน จากนั้นจะมีพ่อค้านำรถยนต์ รถบรรทุกมารับซื้อถึงบ้านโดยที่ชาวบ้านไม่ต้องนำผลผลิตไปขายเอง ช่วงราคาจะไม่แน่นอนแต่ละช่วง แต่ละปีขึ้นอยู่กับตลาด ปีนี้ราคาไม่ค่อยดีกิโลกรัมละ18-20บาทฝนดี อากาสดีผลผลิตออกจำนวนมาก แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่ น้ำหนักโดยเฉลี่ย3-4ลูกต่อ1กิโลกรัมเพราะเป็นช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากพร้อม ๆ กันหากเป็นช่วงผลผลิตน้อยจะได้ราคา25-35บาท/กก.สามารถเก็บขายได้กว่า12ครั้ง/ปีตนปลูก 15 ไร่ได้เงิน 600,000 บาทต่อปี ปีแรกจะลงทุนเสาปูนลวด ขุดปลูก ค่าแรงงาน พ่อค้าก็มาจากในจังหวัดเลยและจากต่างจังหวัดนำแก้วมังกรมาขายให้วันหนึ่ง6-9ตัน ไม่เพียงพอต่อตลาดที่ต้องการ เพราะแก้วมังกรที่ อ.ด่านซ้าย และ อ.ภูเรือ จะมีรสชาติที่หวาน อร่อย เนื้อแน่น ไม่เหมือนที่อื่นจะมีรสชาติอมเปรี้ยว วันหนึ่งขายได้ประมาณ1,000-2,000บาท แก้วมังกรจะมีผลผลิตออกมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคาถึงธันวาคมของทุกปี
ขอบคุณข้อมูลจาก :
bangkokbiznews.com