ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ที่มีสิทธิ์ และคุณสมบัติว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย ก็ได้มีโอกาสใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วนะครับ (ยกเว้นในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม จะได้รับบัตรและใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2560 เนื่องจากต้องทำแบบมี 2 ชิปการ์ด)สำหรับ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ เป็นบัตรที่รัฐบาลมอบให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย (จำนวนประมาณ 11.67 ล้านคนทั่วประเทศ) ที่ได้ลงทะเบียนและเกณฑ์ผ่านคุณสมบัติที่จะได้รับสิทธิ์สวัสดิการนี้ โดยจังหวัดเลยก็ได้มีการเริ่มใช้งานแล้วในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ การช่วยเหลือของโครงการ ผู้มีรายได้น้อย บัตรคนจน -
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนแรกจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และส่วนที่สองจะช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทาง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ประกอบด้วย ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร
จากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยรัฐบาลจะให้เงินใน บัตรคนจน - บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปซื้อสินค้า
สำหรับเงินช่วยเหลือที่ ผู้มีรายได้น้อย ได้รับนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อปี จะได้รับเงินจำนวน 300 บาท ต่อเดือน
2. กลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท ต่อปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จะได้รับเงินจำนวน 200 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ยังได้วงเงินสำหรับเป็นส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนดอีกคนละ 45 บาทต่อ 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนดังกล่าวจะไม่สามารถนำไปใช้หนี้ที่ค้างชำระกับร้านค้า หรือนำไปซื้อสุรา บุหรี่ได้ เพราะไม่ใช่สินค้าอุปโภคที่จำเป็น
แต่สินค้าที่สามารถซื้อได้ เช่น ข้าวสาร ผงซักฟอก ยาสีฟัน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และปุ๋ยเคมี
อนึ่ง บัตรนี้มีเงื่อนไขพิเศษอย่างหนึ่งก็คือ ทุกวันที่ 1 ของเดือน ระบบจะทำการปรับ (Reset - รีเซ็ต) วงเงินในบัตรใหม่ โดยวงเงินที่ใช้ไม่หมด
จะถูกตัดส่งคืนกลับเข้ารัฐทันที
2. ช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รถโดยสารของ บขส. และรถไฟ
โดยเงินช่วยเหลือที่ ผู้มีรายได้น้อย ได้รับนั้นมีดังนี้
1. ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อเดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket)
2. ค่าโดยสารรถ บขส. วงเงินไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน
3. ค่าโดยสารรถไฟ วงเงินไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน
โดยเงินช่วยเหลือในแต่ละส่วนจะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่นำมารวมกัน
สำหรับวิธีการใช้งานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น มีดังนี้
กรณีต้องการใช้วงเงินเพื่อซื้อสินค้า ผู้ถือบัตรสามารถถือบัตรไปเลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ ธงฟ้าประชารัฐ และมีเครื่องรับเงิน ECB
หรือกรณีต้องการใช้เพื่อชำระค่าเดินทาง สามารถติดต่อเค้าน์เตอร์จำหน่ายบัตร หรือแตะบัตรที่เครื่องอ่านในรถที่มีการติดตั้งเครื่องอ่านบัตร
ข้อมูล : เรียบเรียงจากกรมบัญชีกลาง
ในพื้นที่ จังหวัดเลยใช้ได้ที่ไหนบ้าง
รายชื่อร้านค้าที่รวมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจังหวัดเลยบริการตรวจสอบยอดเงินในบัตรฟรี ใช้บัตรฯชำระค่าสินค้า ไม่มีค่าธรรมเนียม
รับบัตรฯ จากทุกจังหวัด และ ทุกอำเภอ