เดิมเป็นวัดเล็กๆ 2 วัด คือ วัดกลางและวัดป่า แต่วัดกลางซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเข้ามาถึงวัดชาวบ้านจึงย้าย 2 วัด รวมเป็นวัดเดียวกัน
วัดมัชฌิมาราม (วัดป่ากลาง) วัดในเชียงคาน
เดิมเป็นวัดเล็กๆ 2 วัด คือ วัดกลางและวัดป่า แต่วัดกลางซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเข้ามา
ถึงวัดชาวบ้านจึงย้าย 2 วัด รวมเป็นวัดเดียวกันเมื่อปี พ.ศ.2466 จึงเรียกชื่อว่า "วัดป่ากลาง" ต่อมาจึงได้
เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดมัชฌิมาราม" แต่ชาวเชียงคานทั่วไป ก็ยังเรียกติดปากว่าวัดป่ากลางเช่นเคย
วัดป่ากลาง
ก่อน พ.ศ. 2466 นี้มี 2 วัด คือ วัดกลาง กับ วัดป่าต่อมา พ.ศ. 2466 ได้ย้ายวัดกลาง ไปวัดป่า
เรียกว่าวัดป่ากลาง คือย้ายจากวัดกลางจากท่าเรือเก่า บริเวณซอย 10 ด้านล่างริมแม่น้ำโขง ไปวัดป่า
ที่วัดกลางมีผู้ขุดพบพระพิมพ์ต่างๆ มากมายฝังเอาไว้ในดิน หลังจากได้มีการสร้างถนนชายโขงผ่ากลางวัดกลาง
และแม่น้ำโขงกัดเซาะใกล้จะถึงพระอุโบสถ ขึ้นมาอยู่ที่วัดป่า (วัดมัชฌิมาราม) ปัจจุบัน แต่ก่อนเป็นป่าเลยเรียกว่าวัดป่า
ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างคุ้มบ้านเหนือกับคุ้มบ้านใต้ ซึ่งวัดทั้งสองห่างกันเพียง 130 เมตร ชาวบ้านจึงรวมกันเป็นวัดเดียวกัน
เรียกว่าวัดป่ากลางโดยพระยาปากดี ต้นตระกูล แพงขวา ทำหน้าที่ว่าความต่างๆ วัดป่ากลางมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่
น่ากลัวมากตอนกลางคืนไม่มีใครกล้าเดินผ่าน ต่อมามีการขยายถนนลาดยางเลย-ปากชม เลยต้องมีการโค่นทิ้งอย่างน่าเสียดาย
และพระวิชิตธรรมมาจารย์ (คำตัน) ได้สร้างบันไดคอนกรีตลงสู่แม่น้ำโขง สิมใหม่วัดป่ากลางศิลปกรรมแบบใหม่
วัดป่ากลางตั้งอยู่ เลขที่ 340 บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 1 ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
มีเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา โฉนดเลขที่ 1955
มีพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ศิลปะเชียงแสน รุ่นสิงห์ 3
หน้าตักกว้าง 11 นิ้วและพระพุทธรูปไม้แกะสลักอีก 15 องค์ พ.ศ. 2596 สร้างอุโบสถ หลังเก่า มีศิลปะสวยงามมาก
ปัจจุบันได้ปรับปรุงกลายเป็นศิลปะสมัยใหม่แล้วคุณพ่อคำเพ็ง คุณแม่ละแหม่ม ตันมิ่ง พร้อมครอบครัวผู้เขียน
ได้บริจาคเงิน 20,000 บาท เพื่อทำเศวตรฉัตรช่อฟ้าตรงกลางยอดโบสถ์ เพื่อให้เป็นศิริมงคลแก่บ้านแก่เมือง
และคุณพ่อคำเพ็ง ตันมิ่ง เป็นโยมอุปัฏฐาก ช่วยเหลือทะนุบำรุงวัดป่ากลางมาตลอดชีวิต พ.ศ. 2532
ได้สร้างศาลาการเปรียญ ทรงไทยครึ่งตึกครึ่งไม้ สองชั้น หอสวดมนต์ พระประธานในโบถส์ มีพระอธิการจันทร์
จนฺทโชโตเป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน แต่ก่อน ตลาดสดตั้งอยู่บริเวณวัดป่ากลางเก่า (ท่าเรือเก่า)
เพื่อติดต่อค้าขายระหว่าประชาชนริมแม่น้ำโขง ชาวบ้าน บ้านปากพาง บ้านตากแดด บ้านสานะคาม
เอาสินค้ามาขายทุกเช้า ข้ามแม่น้ำโขงมาค้าขายได้อย่างเสรี ต่อมาย้ายไปตั้งอยู่ที่ข้างบนระหว่าง
ซอย 9 กับ ซอย 10 แล้วจึงย้ายไปนาน้อย ที่ตลาดสดเทศบาล ในปัจจุบันและแต่ก่อน มี 2 ตลาด คือ
ตลาดเช้า กับตลาดแลง ตลาดเช้าตั้งอยู่ตลาดสดปัจจุบัน ส่วนตลาดแลงตั้งอยู่ที่คิวรถเก่าหน้าธนาคารออมสิน
ต่อมาก็ปิดตัวลง แล้วย้ายไปที่หน้าวัดป่าใต้
ต่อมาในสมัยพระมหาเกียรติ วุฑฒิสาโร ได้เปลี่ยนชื่อจากวัดป่ากลางเป็นวัดมัฌชิมาราม
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในชื่อ วัดป่ากลาง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493