จบ ป.4 รายได้ร่วม 240,000 บาท ต่อเดือนทำไงไปดู

หนุ่มภูเรือ จ.เลย จบป.4 อาศัยใฝ่เรียนรู้ ออกหาประสบการณ์กลับมาทำสวน ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ป้อนตลาด สร้างรายได้กว่าสองแสนบาทต่อเดือน สนองตอบความต้องการคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการบริโภคผักสะอาด ปลอดสารพิษ... วันที่ 3 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายคูณนา บุญมี อายุ 57 ปี ผู้ปลูกและดูแลสวนผักไฮโดรโปนิกส์ เลขที่ 562 หมู่ 7 ถนนเลย-ด่านซ้าย บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ภูเรือบ้านสวนกาแฟ นายคูณนา กล่าวว่า ตนจบการศึกษา ป.4 อาศัยการเดินทาง ใฝ่หาความรู้ ดูจากเว็บไซต์ จากเฟซบุ๊ก จากวารสารต่างๆ มาเพิ่มความรู้ประสบการณ์ปลูกสร้างสวนผักแบบไม่ใช้ดิน เป็นผักที่ใช้เฉพาะน้ำ อากาศ และปุ๋ยที่ผสมมากับน้ำตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ เริ่มจากการสร้างโรงเรือน หลังคามุงผ้าดำกันแดดจัดกันฝนหนัก โต๊ะรองรับผักเจาะรู ท่อพิวีซี ระบบน้ำ โต๊ะละ 400 ต้น รวม 20,000 ต้น มีระบบตรวจสอบความชื้นและความเป็นด่าง อุณหภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อมจะต้องดี ไม่มีโรค กลิ่น สารพิษจากรอบสวนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ภูเรือ

ส่วนพันธุ์ผักซื้อมาจากกรุงเทพฯ ราคา 50 สตางค์ต่อเมล็ด แบบเคลือบเมล็ดและเปลือยเมล็ด หยอดเมล็ดลงในรูของฟองน้ำ ชุบน้ำให้เปียกก็จะงอก นำไปเข้าตู้อบ และลอยน้ำ 5 วัน อีก 3 วันก็ออกใบ และนำไปห้องอนุบาล 2 จากนั้นนำขึ้นไว้ที่โต๊ะอีก 20 วัน จนอายุครบ 50 วัน เก็บขายได้ ซึ่ง ผักไฮโดรโปนิกส์ มีสารอาหารมากมาย บำรุงงสุขภาพร่างกาย บำรุงหัวใจ รักษาโรค แก้ท้องผูก จะขับถ่ายง่าย บำรุงประสาทและสมอง จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในยุคนี้ ที่ประชานนหันกลับมาสนใจดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อบริโภคอาหารที่เกิดประโยชน์ป้องกันโรคแทรกซ้อนโรคต่างๆ ที่เป็นอยู่มากในปัจจุบัน

สำหรับชนิดของผักที่ปลูก นั้น ประกอบด้วย เรดคลอรอล เรสโอ๊ค กรีนโอ๊ค กรีนครอส บาสเตอร์ เรดบาสเตอร์ ฟิลเรย์ ร็อคเก็ตและไวน์ร็อคเก็ต ผลผลิตป้อนตลาดมากที่สุด คือ เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค ราคาขายปลีก 80 บาท/กก.ขายส่ง 60 บาท./กก. ส่งครั้งละ 100 กก. ส่วนหน้าร้อนผักโตช้า ราคาจะสูงคือ 110 บาท/กก.

"การตลาดเปิดกว้างมาก คือ นำไปส่งสัปดาห์ละ 2 ครั้งที่ตลาด อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ตลาดในกรุงเทพฯที่ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ไทรน้อย ปากคลองตลาด ส่งตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่วนต่างประเทศมีจากฮ่องกง ติดต่อออเดอร์เข้ามา ผลผลิตป้อนตลาด 3,000 กก./เดือน รายได้เฉลี่ยที่ 240,000 บาท./เดือน ซึ่งผักจะมีความเจริญดี สมบูรณ์ สด ในหน้าหนาว และหนาวจัดจะได้ผลดีมาก ส่วนหน้าฝนและหน้าร้อนจะโตช้า"
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก :http://www.thairath.co.th