บ้านหินตั้ง

ไม่ระบุเวลา

แผนที่การเดินทาง

ติดต่อสอบถาม

ที่อยู่:
-ไม่ระบุ-
โทร:
-ไม่ระบุ-
อีเมล:
-ไม่ระบุ-
เว็บไซต์:
-ไม่ระบุ-
เฟซบุ๊ก:
-ไม่ระบุ-
ไลน์ไอดี:
-ไม่ระบุ-
หินตั้ง จึงหมายความว่า เป็นหมู่บ้านที่มีก้อนหินตั้งเป็นสง่า (ซึ่งในหมู่บ้านนี้มีแต่หินกรมๆ ตั้งอยู่บนพื้นดินสูงจากพื้นดินประมาณ 3.00 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 3.00 เมตร)

ประวัติและความเป็นมาของหมู่บ้าน
หิน หมายความถึง มวลของแข็ง ที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมกันอยู่ตามธรรมชาติ ตั้งตรง สง่าทรงอยู่ หินตั้ง จึงหมายความว่า เป็นหมู่บ้านที่มีก้อนหินตั้งเป็นสง่า (ซึ่งในหมู่บ้านนี้มีแต่หินกรมๆ ตั้งอยู่บนพื้นดินสูงจากพื้นดินประมาณ 3.00 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 3.00 เมตร)
บ้านหินตั้งสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2400 โดยราษฎรได้อพยพมาจากอำเภอน้ำปาด จ. อุตรดิตถ์ มาด้วยกัน 7 ครอบครัว คือ 1. นายเร้ ไชยคีนี 2. นายญา 3. นายนัน 4. นายฟา 5. นายผิด 6. นายป้อง 7. นายออนได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านนาสีและทำมาหากินอยู่ บริเวรริมห้วยหินซา เมื่อประมาณเพิ่มมากขึ้นก็ได้ ออกจากบ้านนาสีมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านหินตั้งหรือบริเวณดอนหอ (ศาลเจ้าบ้าน) ซึ่งสถานที่ บริเวรตรงนั้นมีหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บิเวรห้วย แต่ก่อนที่ บริเวรนั้นจะเป็นที่อยู่ของนกกาดำ ที่มาพักอาศัยอยู่ในถ้ำหินนั้น การตั้งชื่อหมู่บ้าน จึงได้ตั้งชื่อตามก้อนหิน บ้านตั้งเป็นสังคมครอบครัวที่อยู่รวมเป็นกลุ่มหรือเป็นคุ้มที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทางเกสรกรรม การปกครองในสมัยนั้นได้มีนายขุน เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก สมัยก่อนเรียกว่ากวนบ้าน คนที่สองชื่อนายเร้ โดยตั้งเป็นบ้านหินตั้งเพียงหมู่เดียวคือหมู่ 7 ตำบลธาตุ แต่พอมาถึงสมัยของผู้ใหญ่บัวหลุด ศรีคำ ก็ไดแยกเป็นสองหมู่บ้านและได้เปลี่ยนที่หมู่ 7 เป็นบ้านหินตั้งหมู่ที่ 3 จากนั้นก็ได้แยกตัวออกมาเป็นตำบลธาตุเป็นตำบลจอมศรี
เมื่อปี พ.ศ.2537 บ้านหินตั้งก็ได้แยกการปกครองออกจาก หมู่ที่ 3 มาตั้งใหม่เป็นหมู่ที่ 6 โดยมีนายหล่ำ เมืองวิเศษ เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 คนแรก ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ 5 ปี จนถึง พ.ศ. 2540 ก็ได้หมดวาระและได้เลือกตั้งใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2541 แต่นายหล่ำ เรืองวิเศษ ก็ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งอีก ครั้ง และเนื่องจากมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหมู่บ้านจึงให้ นายหล่ำ เรืองวิเศษ ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีพ.ศ. 2543 ต่อจากนั้นได้มีการคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่เพื่อทดแทนผู้ใหญ่บ้านคนเก่า ได้นายสมร ศรีคำดำรงตำแหน่งได้ 1 ปี ครึ่ง เนื่องจากกำนันตำบลจอมศรี ได้หมดวาระลงก็ได้คัดเลือกใหม่ทำให้นายสมร ศรีคำ ได้รับคัดเลือกให้เป็นกำนันตำบลจอมศรี ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นมา
สถานที่สำคัญในชุมชน
วัดโนนสว่าง วัดโนนสว่างได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2498 โดยมีอาดญาคูโพและอากญาคูกองเป็นเจ้าอาวาส มีนายสมบูรณ์ เรืองวิเศษ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นได้นำชาวบ้านมาสร้าง และมีผู้จิตศรัทธาก่อสร้างเริ่มแรก คือครอบครัวของ
1.นายจันดี 2. นายแฮม
3.นายเรือง 4. นายจำปา
5. นายเร้ 6. นายนัน
7. นายผิด 8. นายป้อง
และเป็นวันประจำบ้านที่ชาวบ้านให้ความสำคัญมาจนถึงปัจจุบันนี้
วัดศรีหินตั้ง (วัดป่าน้ำพุ) สร้างปีพ.ศ. 2482 โดยมีหวงพ่อศรี เป็นผู้เริ่มพาชาวบ้านก่อสร้างจากนั้นชาวบ้านก็ช่วยกันคนละเล็กคนล่ะน้อย ในการสร้างวัดตรงนี้เป็นป่าดงทึบชาวบ้านจึงได้ช่วยกันถางป่าเพื่อปลูกสร้างกุฏิให้หลวงพ่อศรี เหตุที่ตั้งชื่อของหลวงพ่อศรีจากนั้นก็มีเจ้าอาวาสรูปต่อมา คือ หลวงพ่อบุญตา หลวงพ่อมา หลวงพ่อนัด และหลวงพ่อศิริจันท สุมณฑ์ (สมพร)มาอยู่ปี พ.ศ. 2530 จนถึงปี พ.ศ. 2553 มีพื้นที่วัด 8 ไร่ 50 ตารางวา
ศาลเจ้าบ้าน เป็นศาลเจ้าบ้านที่มีมาพร้อมกับการตั้งหมู่บ้าน ซึ่ง บริเวรตรงนี้จะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่กับศาลเจ้าบ้านหรือชาวบ้านเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าดอนหอ ทุกปีจะมีการเลี้ยงบ้าน เพื่อให้หมู่บ้านอยู่เย็น เป็นสุขสงบและเป็นการทำบุญหมู่บ้านประจำปีด้วยในการเลี้ยงหอนั้นเมื่อถึงเดือน 6 จะลี้ยงด้วยควายเป็นการเลี้ยงลงคือ การเตรียมตัวเพื่อทำไร่ทำนา พอมาถึงเดือน 12 ก็จะเลี้ยงด้วยหมูเป็นการเลี้ยงขึ้น คือการเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อเอาข้าวขึ้นฉางข้าว (เล้าข้าว) บริเวรดอนหอตรงนี้ สมัยก่อนจะมีนก อีกามาพักอาศัยอยู่ในถ้ำหินแห่งนี้
ลำน้ำกุดเชียงมัง เป็นลำห้วยที่มีปลาซุกซุมจำนวนมาก มีนายเพชรหอด ได้ไปหาปลาโดยเอาไซไปใส่ดักปลาไว้ที่ห้วยได้ปลาเต็มไซทุกวัน แต่วันต่อๆ มา ปรากฏว่าปลาไม่ถูกไวที่ดักไว้เลยนายเพชรหอดเลยมาแอบดูก็เลยเห็นนายเชียงมังกำลังขโมยปลาจึงมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นนายมังโดนนายเพชรหอดเอามีดเชือดคอนายเชียงมังตาย ก็เลยตั้งชื่อว่า ห้วยกุเชียงมัง (กุด หมายถึง หนองน้ำที่ลึกและเป็นน้ำที่ไหลออกตลอดปี) ลำน้ำนี้จะไหลผ่านบ้านนาสี บ้านห้วยหินซา และไหลผ่านบ้านหินตั้ง
น้ำพุ เป็นแหล่งน้ำที่มีน้ำพุ่งขึ้นจากพื้นดิน เดิมพุ่งขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร แต่เดี่ยวนี้เพิ่มขึ้นเป็นเล็กน้อยเท่านั้นน้ำพุนี้มีมาก่อนที่ราษฎร 15 ครอบครัว จะมาตั้งถิ่นฐานอยู่ รูปร่างมีลักษณะเป็นห้วย หรือลำคลองและมีน้ำพุไหลพุ่งออกมาจากริ่มตลิ่ง และน้ำพุงนี้อยู่ที่บริเวณวัดศรีหินตั้ง บ้านหินตั้งหมู่ที่ 6
โรงสีข้าวชุมชน บ้านหินตั้งเป็นโรงสีข้าวที่สร้างจากโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขปี 2550 ได้รับงบสนับสนุนจากนายอำเภอเชียงคาน และท่านรองประธานองค์การบริหาร จังหวัดเลยโดยได้นับงบประมาณ 200,000 บาท และได้รับจากโครงการ พพพ. (รอบพิเศษ) ได้งบประมาณ 250,000 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2551 ก็ได้สร้างฉางข้าวไว้เป็นส่วนการของหมู่บ้านและยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนด้วย
โรงเรียนบ้านหินตั้ง เดิมชาวบ้านหินตั้งได้ส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสืบที่โรงเรียนบ้านนาสี ขณะนั้นผู้ใหญ่บ้านหินตังคือ นายปัน ไชยคีนี ได้ปรึกษาหารือกันกับชาวบ้านเกี่ยวกับสถานที่ เรียนหนังสือของลูกหลานเพราะว่าการเดินทางไปเรียนของลูกหลานนั้นลำบากมากสมัยนั้นเป็นถนนที่ไม่เรียบไม่มีถนนลากยางเหมือนสมัยนี้จึงได้ไปศึกษากับนานกองมี ธนะสูตร ครูดรงเรียนบ้านนาสีท่านจึงได้ดำเนินการต่อนายอำเภอเชียงคานจึงได้ดำเนินกานต่อไปยังท่านผู้ว่าฯ เมื่อท่านได้อนุมัติลงมาจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นที่ป่าโคกทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านที่นี่มาจนถึงปัจจุบัน
สถานีอานามัย สถานีอานามัย บ้านหินตั้งได้สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2515 โดยได้งบประมาณการก่อสร้างจากรัฐบาลกับชาวบ้าน โดยอาศัยอาคารเก่าเป็นสำนักงานผดุงครรภ์ บ้านหินตั้งเป็นที่อาศัย ชั่วคราวก่อนต่อมา พงศ. 2519 ได้ยกฐานะเป็นสถานีอานามัย ตำบลจอมศรีก่อสร้างอาคารใหม่ ใช่งบประมาณของรัฐบาล สถานี อนามัยตั้งอยู่ที่บ้านหิน หมู่ที่ 3 ตำบลจอมศรี


ข้อมูลจาก ประวัติศาสตร์หมู่บ้านและชุมชนในจังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน โดย กศน.อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน สำนักงาน กศน. จังหวัดเลย พ.ศ.2553

สิ่งอำนวยความสะดวก