ภูหอ

วนอุทยานภูหอ

เป็นภูเขายอดทรงรูปตัดคล้ายงอบของเกษตรกรและภูผาจิต ในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวเป็นเพราะเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก ทำให้พื่้นดินทรุด เกิดหินโผล่ ทางขึ้นยอดภูมีแหล่งน้ำซับและจะต้องปีนป่ายหรือโหนเถาวัลย์ขึ้นไปยอดภู ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ประมาณ 15 ไร่ ไม่สามารถพักค้างคืนได้เพราะลมแรงมีที่ทำการวนอุทยานฯ ตั้งอยู่ทางเข้าบริเวณบ้านหนองบัว ตำบลภูหอ อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีแหล่งโบราณคดี ที่บริเวณโรงเรียนบ้านหนองบัว บ้านศรีอุบล ตำบลภูหอ อำเภอ ภูหลวง จังหวัดเลยด้วย

ตำนาน "ภูหอ"

ภูเขาสัณฐานประหลาด ที่ มองเห็นได้ในระยะ ไกลจากแผ่นดินโดยรอบลูกนี้ มีเรื่องเล่า กล่าวขานมามากมาย เท่าที่พอสืบค้นได้ เกี่ยว เนื่องกับ 2 ตำนาน คือ ขันธกุมารแลนางผมหอม

ตำนานแรก

เล่าขานกันว่าในอดีตยังมีเมืองนามว่า ขวางทะบุรี มีขุนบรมราชาปกครองเมืองโดยให้ประชาชนถือศีลในวันอุโบสถ ขึ้น8ค่ำ ขึ้น15ค่ำ บ้านเมืองสงบ สุขเรื่อยมา ตราบจนเจ้าผู้ครองคนถัดมา ที่ เมามัวและให้ประชาชนฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เมามัวได้ตามจริต จนบ้าน เมืองเสื่อมทรามเป็นลำดับ พญาแถน เจ้าแห่งผี และ แผ่นฟ้า กริ้วโกรธ เป็น อย่างยิ่ง ส่ง ฝูงงูพิษจากฟ้าลง มาเข่น ฆ่าผู้คน จน ขวางทะบุรี กลายเป็นเมืองร้าง

ต่อมามี สหาย 3 คน มีขันธกุมาร นายไม้ร้อยกอ และ นายเกวียนร้อยเล่ม เดินทางผจภัยมาจนถึงเมืองร้าง ขวางทะบุรี แห่งนี้ ตาม หา โดยรอบพระนครก็ หาพบผู้คนไม่ พบแต่กลองใบใหญ่ กลาง นครตีดูแล้ว ไม่มี เสียงดัง จึงใช้ มีดกรีดหน้ากลองออกจึงพบ นางกลองศรี พระธิดาเจ้าเมืององค์ ก่อน จึงเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ทั้งหมด 3 หนุ่ม จึงคิดแก้ แค้น ให้ ประชากรใน เมือง จึงสุม ไฟ*เป็น ควันขึ้น ไป พระยาแถน จึงรู้ ว่ายังมีคนอยู่ ใน เมือง ขวางทะบุรี จึงส่งกองทัพงูพิษลง มา เข่น ฆ่าอีกรอบ 3หนุ่ม มีฝีมือ ยิ่ง ได้ ฆ่างูของพญาแถนตาย ไปเสียหมด หลังจาก นั้นเอง เกิด ฝน ตกหนัง พัด ซากงู ไปกองรวมกัน เรียก ภูเขาซากงู นั้น ว่า ภูโฮ้ง หรือ ภูหอ นั้นเอง ส่วนที่ที่ สุมไฟนั้น เรียก ดงพญาไฟ

ตำนานที่สอง

เล่าขานกันว่า คราหนึ่งมี องค์หญิงหรือ ทางอีสานเรียกว่า เทวี ได้ประภาทป่าแล หลงกับข้าราชบริภาร จนรู้สึกกระหายเป็น อย่างยิ่ง ได้ พึ่งอาศัย น้ำขังในรอยเท้าพญาช้าง และรอยเท้ากระทิง ใน ยามกระหาย จนใน ที่สุดองค์ หญิง ได้ กลับมายัง นครและ ได้ตั้งครรภ์ กำเนิดทารก หญิงแฝด ชื่อนางผมหอม(เพราะมีผมหอมติดตัวมาแต่แรกเกิดและเกิดจากน้ำขังในรอยเท้าพญา ช้าง) และแฝด น้องชื่อลุน(เกิดจากน้ำขังในรอยกระทิง)

เวลาผ่านพ้นไป เด็กหญิงทั้ง 2 ใคร่อยากรู้ ว่าใคร เป็นพ่อที่แท้ จริงเทวี ผู้แม่ อดทน ไม่ไหว จึง บอกความจริงแล เด็กทั้ง2 ได้ หนีเข้าป่าไปเพื่อตามหา พ่อ ที่แท้ จริง และ ใน ที่สุดเด็กหญิงทั้ง2 ก็ ได้เจอกับพญาช้างสาร ผู้เป็นพ่อ โดยพญาช้างจะเข้ามาทำร้าย เด็กหญิงทั้ง2 แต่เด็กทั้งคู่ได้ ร้องขอชีวิตไว้ และเล่าว่าตน เป็น ลูกของพญาช้าง

พญาช้างได้ยิน เช่นนั้น จึง ทดสอบเด็กทั้ง 2 โดย ให้ทั้งคู่ขึ้นมาบนตัวของพญาช้างสารทาง งา ของตนเด็กคน ไหนขึ้น มาได้ คือลูกสาวของตน นางลุนแฝด ผู้น้องพยามเป็นอย่างยิ่ง เพราะกลัว ตาย แต่ก็ ขึ้น ไม่ได้ เสียทีผิดกับนางผมหอมที่ขึ้น ได้อย่างง่าย ดายพญาช้างจึง ฆ่านางลุนแฝดน้องตายเสียเพราะแอบอ้างเป็น ลูกของตน พญาช้างรับนางผมหอมไปเลี้ยง และ สร้างปราสาทหินให้อยู่ บนภูเขาไกลจากเมืองของมนุษย์(พญาช้างหวงนางผมหอมเป็นอย่างมาก) และปราสาทหินของนางผมหอมที่พญาช้างสร้าง นั้น เองก็ คือ ภูหอ

สถานที่ตั้ง

วนอุทยานภูหอ ตั้งอยู่ที่ ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย

การเดินทาง

จากจุดเริ่มต้น แขวงการทางเลยที่ 1 ใช้เส้นทาง หมายเลข 201 ไปทางอำเภอวังสะพุง ขับตามเส้นทาง จนถึงทางแยก เลีย้วขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2250

ค่าบริการ

เจ้าหน้าที่นำทาง คนละ 500 บาท/วัน

ที่กิน

-

ที่พัก

-

เบอร์โทรศัพท์

หน่วยภูหอพี่ประวิท 085-4580989 , กิจฏา 0879521796

ของที่ระลึก

-

ข้อมูลจาก :http://pantip.com

http://board.trekkingthai.com/

อดุลย์เดช ติยะบุตร. เมืองเลยที่เรารัก. ขอนแก่น : โรงพิมพ์ประมวลวิทยา, 2553.