บ้านน้อย

ประวัติละความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านน้อยหาโพงเพราะว่ามีศพนางโพงไหลมาเกยหาดท้ายหมู่บ้านจึงได้ตั้งชื่อว่าบ้านน้อยหาดพรมเพราะว่าท้ายบ้านมีหาดเหมือนกับพรมปู่ไว้ เดิมที่บ้านน้อยยังไม่เป็นหมู่บ้านมีราษฎรอพยพมาจากบ้านท่านาจันทร์มาตั้งบ้านเรือนอยู่ประมาณ 6 หลังคาเรือนชื่อว่าบ้านน้อยหาโพงเพราะว่ามีศพนางไหลมาเกยหาดท้ายหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อปี พศ. 2452 ได้มีราษฎรอพยพตามมาอีก เนื่องจากภูมิประเทศมีความเหมาะสม ในการดำรงชีพและประกอบอาชีพเข้ามาตั้งบ้านเรือนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นายฟองโคตรบ้งหัวหน้าหมู่บ้าน จึงได้ยื่นหนังสื่อขอจดทะเบียนจัดตั้งหมู่บ้านตามพระราชบัญญัติโดยใช้ชื่อว่าบ้านน้อยหาดพรมเพื่อเป็นศิริมงคล เนื่องจากท้ายหมู่บ้านมีหาดหินสวยเหมืนพรมปูไว้ โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคนแรก
1. นายโสภา ดวงตามี
2. นายรมณ์ กงนรินทร์
3. นายเผื่อน โสคำ
4. นายเคลือบ สิมแสน
5. นายจำนง สาสมัคร
6. นายสมพร ภูธะสิม
7. นายเพชร ขุนวัน
8. นายสุบัน สาสมัคร ได้บันทึกเอาไว้
บ้านน้อยอยู่ห่างจากอำเภอเชียงคาน 3 กิโลเมตร ทางหลวงหมายเลข 211 สายอำเภอเชียงคานถึงอำเภอปากชมมีสภาพเป็นภูเขามีลำห้วยปิงใหญ่ห้วนเป้ารัวและแม่น้ำโขงใหลผ่านซึ่งบริเวรน้ำโขงใหลผ่านเป็นลักษณะเกาะ แก่งเมื่อถึงฤดูแล้งปรากฎมีโขดหินใหญ่น้อยเรียงราย หาดทรายสวยงามตามความคดโค้งของสายน้ำโขงเรียกว่าแก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ของอำเภอเชียงคาน และจังหวัดเลยติดกับบ้านน้อย หมู่ที่ 4 โดยมีนักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ประมาณ 250,000 -300,000 คน/ ปี เฉลี่ย 25,000 คน / เดือน 380 คน/ วัน
อาณาเขต
 ทิศเหนือ ติดกับแม่น้ำโขง สปป.ลาว
 ทิศใต้ จดกับบ้านโพน ตำบลนาซ่าว
 ทิศตะวันออก จดกับบ้านผาแบ่น ตำบลบุฮม
 ทิศตะวันตก จดกับบ้านเชียงคาน หมู่ที่ 2 ต.เชียงคาน
ด้านการสำรวจ
จำนวนสำมโนประชากรตามที่คณะกรรมการหมู่บ้านสำรวจวันที่ 18 เดือนกันยายน 2552 ทางทะเบียนครัวเรือน จำนวน 218 ครัวเรือน สำรวจครัวเรือนที่อู่จริงปัจจุบัน จำนวน 171 ครัวเรือน จำนวนประชากร 801 คนแยกเป็นชาย 407 เป็นหญิง 394 รายได้เฉลี่ย/ คน /ปี ประมาณ 38,550 บาท เนื้อที่หมู่บ้าน 1200 ไร่ เมื่อปี 2552 อบต. สำรวจหมู่บ้าน 4000 ไร่กว่า เดิม พื้นที่ทำการเกษตร จำนวน 800 ไร่ที่อยู่อาศัย จำนวน 150 ไร่ ที่เลี้ยงสัตว์ จำนวน 250 ไร่ โรงเรียน 1 แห่ง
ลักษณะภูมิอากาศ
เป็นแบบ 3 ฤดุ คือ
1. ฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคม , เดือนกรกฏาคม
2. ฤดูฝนช่วงเดือนเมษายน, เดือนตุลาคม
3. ฤดูหนาวช่วงเดือนตุลาคม, เดือนกุมภาพันธ์
ด้านพัฒนาการ
การพัฒนาหมู่บ้านและเศษรฐกิจพอเพียงปี 2549 – 2550 จากสำรวจตัวชี้วัด 6 x 2 ตัวชี้วัดปรากฎว่าคะแนนตามแบบสรุปหมู่บ้านได้ 31 คะแนน จากคะแนนเต็ม 36 คะแนน คะแนนจึงเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดมีดังการการลดรายจ่าย มีการปลูกผักสวนครัวจำนวน 150 ครัวเรือน โดยส่วยมากมักปลูกตามริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นผักปลอดสารพิษไว้รับประทานอีกด้วย เนื่องจากภูมิประเทศเอื้ออำนวย ทั้งยังเป็นการลดรายจ่ายของครัวเรียนอีกทางหนึ่ง

ข้อมูลจาก ประวัติศาสตร์หมู่บ้านและชุมชนในจังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน โดย กศน.อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน สำนักงาน กศน. จังหวัดเลย พ.ศ.2553