ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านท่าวัดที่อุดมสมบูรณ์ในสมัยก่อนคือท่าวัดป่ากลางและประชาชนในกลุ่มนี้มีอาชีพทำนาอยู่ที่นาจันทร์เพราะคนที่ไปสร้างบ้านแปลงเรือนนั้นคือคนที่ย้ายบ้านเรือนออกจากคุ้มวัดป่ากลางจึงตั้งชื่อบ้านว่าบ้านท่านาจันทร์ ในสมัยก่อนมีชนกลุ่กหนึ่งได้อพยพมาจากเมืองลานช้างในขณะนั้นได้มีการร่วมไพร่เป็นคนเมืองขึ้นเพื่อได้มาซึ่งอำนาจ ขนกลุ่มดังกล่าวนี่เป็นคนที่รักสงบจึงได้ซักชวนกันตัดไม้ทำแพและเรือเป็นพาหนะล่องมาตามแม่น้ำโขงและได้แบ่งแยกกันอยู่ทั้งสองฝั่งโขงตั้งแต่ผาลาดบ้านปากพาง บ้านแตกแดด และเมืองสานะคามของสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในปัจจุบันทั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขงของบ้านท่าดีหมี บ้านนาจานปากน้ำพรบ้านคกงิ้ว และบ้านกกมาค ซางกระจายส่วนที่เหลือจากนั้นได้มาสร้างปักษ์หลักฐานที่อยู่ บริเวรชุมชนคุ้มวัดป่ากลางในปัจจุบันซึ่งคิว่าเหมาะว่าหรับการทำมาหากินของชุมชนได้ดี เช่นการคมนาคมทางน้ำการทำประมง ในทางด้านเกษตรได้ยึดเอาที่ราบลุ่มที่ที่เป็นชื่อนาจันทร์ในสมัยนี้ ทุ่งนาจันทร์อุดมบูรณ์แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีแม่น้ำห้วยเป็นหลักและยังมีแม่น้ำอีกสี่สาย คือ หนองจานโตน หนองชุมแสง หนองเต่า และหนองเค้า อีกหลายปี ต่อมาทางประเทศเพื่อนบ้าน ( ลาว ) มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 2 ฝ่าย คือ1. เขตปกครองหลวงพระบาง2. เขตปกครองนครหลวงเวียงจันทร์จึงเกิดการอพยพครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งทางนครหลวงเวียงจันทร์อพยพขึ้นมาทางเหนือโดยการใช่เรือเป็นพาหนะและดินทางเท้าบ้าง จดหมายคือเมืองสานะคามในปัจจุบันมาถึงเป้าหมายเป็นส่วนมาแยกย้ายกันอยู่ทางริมโขงซ้ายและขวาของแม่น้ำโขงเช่น บ้านหาดคัมภื บ้านสงาว บ้านปากชมจนมาถึงบ้านผาแบ่น ส่วนทางเหนือของเขตการปกครองของหลวงพระบางอพยพมาแต่ไม่มากนักเข้ามายุในชุมชนของบ้านท่านาจันทน์ต่อมาเมื่อเกิดเป็นชุมชนใหญ่ขึ้นก็แยกย้ายที่อยู่การทำมาหากินออกไปทางทิศตะวันออกทางริมฝั่งโขงถึงบ้านน้อยหาดพรมทางทิศตะวันอกเฉียงเหนือถึงบ้านโพนในปัจจุบันมาเมื่อพุทธศักราช 2450 ได้มีบุคคลท่านหนึ่งที่ชุมชนเรียกท่านว่า พระยาศรีอัคฮาด ( ทองดีศรีประเสริฐ ) ท่านได้มีแนวคิดดำริที่จะให้ชุมชนดังกล่าวนั้นเป็นเมืองเป็นอำภอ ชุมชน ที่อยู่ในฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงคือเมืองสานะคามของสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน ก็อพยพข้ามมาฝั่งขวาของบ้านท่านาจันทร์เป็นส่วนมากอีกหลายปีผ่านมาเมื่อปีพุทธศักราช 2452 พระยาศรีอัคฮาด ( ทองดีศรีประเสริฐ ) ได้ตั้งชุมชนนี้ว่าเมืองเชียงคาน ( อำเภอเชียงคาน )ชื่อบ้านท่านาจันทร์ก็เหลือแต่เพียงตำนานแต่มาอำเภอเชียงคานได้มีความเจริญมีตำบล หมู่บ้านหลายตำบล จึงแยกการปกครองออกเป็นกิ่งอำเภอคืออำเภอปากชมในปัจจุบัน อำเภอเชียงคาน ตำบลเชียงคานเหลือ 5 หมู่บ้าน ต่อมาพุทธศักราช 2539 ผู้ใหญ่บ้านสมัยนั้นชื่อ นายเผย สายจันทร์ เป็นฝ่ายปกครองได้เล็งเห็นว่ามีผู้คนขยายบ้านออกไปอยู่บ้านทุ่งนาจันทร์เป็นจำนวนมากจึงได้แบ่งแยกหมู่บ้าน ลูกหลานที่มีตำนานเล่าขานต่อมาหลายช่วงอยู่คนได้เกิดขึ้นอีกหลายครั้งและแล้วก็เป็นความจริงจึงได้ตั้งชื่อเป็นบ้านท่านาจันทร์ฝ่ายปกครอง1. นายเฉลิม ชัยคำหาญ กำนันตำบลเชียงคาน2. นายไพบูลย์ แผนฝาก กำนันตำบลบ้านเชียง3. นายสุวันชัย เสนาพรหม กำนันตำบลเชียงคานมีวัดอยู่หนึ่งแห่ง ชื่อวัดภูช้างน้อยมีครัวเรือน 350 ครัวเรือนประชากร 932 คน ชาย 462 หญิง 454 คน เนื้อที่ทำการเกษตร 1,700 ไร่ ฝายกั้นน้ำ 3 แห่ง สระน้ำสาธารณะ 1 แห่ง สนามกีฬา 1 แห่ง โรงสีข้าวชุมชน 1 แห่ง กลุ่มอัด 1 กลุ่ม กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ 1 กลุ่ม กลุ่มออมทรัพย์มีนายไพบูลย์ แผนฝากประธารกลุ่ม อสม. 1 กลุ่ม 20 คน นายวิเชียร ผิวันคำ ประธาน
ข้อมูลจาก ประวัติศาสตร์หมู่บ้านและชุมชนในจังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน โดย กศน.อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน สำนักงาน กศน. จังหวัดเลย พ.ศ.2553
แนะนำสถานที่ในหมวดหมู่เดี่ยวกันกับ บ้านท่านาจันทร์
แนะนำสถานที่ใกล้เคียงกับ บ้านท่านาจันทร์