ความหมายของชื่อหมูบ้านมาจากการเล่าว่า เจ้าเมือพิษณุโลก ให้ควานช้างไล่ตามคล้องช้างที่สำคัญเชือกหนึ่งตามเส้นทางเดินของช้างและได้ตามคล้องช้างมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจึงเปลี่ยนวิถีคล้องช้างตามปกติมาเป็นการคล้องช้างกันเอง
ประวัติบ้านท่าคล้องช้าง
หมู่ที่ 1ตำบลท่าคล้องช้าง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย
ความหมายของชื่อหมู่บ้าน
ความหมายของชื่อหมูบ้านมาจากการเล่าว่า เจ้าเมือพิษณุโลก ให้ควานช้างไล่ตามคล้องช้างที่สำคัญเชือกหนึ่งตามเส้นทางเดินของช้างและได้ตามคล้องช้างมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจึงเปลี่ยนวิถีคล้องช้างตามปกติมาเป็นการคล้องช้างกันเอง พอมาถึงท่าน้ำและแม่น้ำพวยจึงให้ช้างไปคล้องกันเองแล้วจึงได้ช้างเชือสำคัญนั้น ที่ท่าน้ำลำพวย ท่าน้ำแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า บ้านท่าคล้องช้าง
ประวัติความเป็นมาของการตั้งหมู่บ้าน
การตังหมู่บ้าน พ.ศ ใดไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดแต่เชื่อว่า ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเป็นนายรานล่าสัตว์สามคน คือ นายพราน กรรณลา นายพราน วงษ์ไชยา และนายพราน สุพรพิมพ์ ได้เดินทางล่าสัตว์มาเรื่อยๆผ่านหมู่บ้านต่างๆ จนถึงบ้านท่าคล้องช้าง ซึ่งนายพรานเห็นว่ามีลักษณะพื้นที่อุดมสมบูรณ์จึงได้มาตั้งบ้านเรือยอยู่ริมน้ำพวยและมีชาวบ้านอื่นๆทราบจึงอพยพตามมาอยู่ จึงได้กลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่และได้ถูกตั้งเป็นตำบลท่าคล้องช้างอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์และอยู่ริมน้ำเมื่อถึงหน้าฝนบ้านเรือนจึงถูกน้ำท่วมเพราะเป็นที่ลุ่ม ชาวบ้านจึงพากันย้ายอพยพบ้านไปอยู่ตามหมู่บ้านอื่นๆ บ้านท่าคล้องช้างไปย้ายการปกครองจากจังหวัดอุดรธานี มาเป็นจังหวัดเลย ผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือนายมา กรรณลา
สถานที่อ้างอิงทางประวัติศาสตร์
• วัดแสงจันทรารามเป็นวัดประจำหมูบ้านเนื่องจากสมัยก่อนวัดมีลักษณะเก่าและใกล้วัดร้าง มีพระที่เดินทางมาจากอุบลราชธานีเพื่อมาเยี่ยมบิดามารดา จึงมาจำวัดอยู่วัดแสงจันทรารามและได้บูรณะวัดขึ้นใหม่และสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ 2449 จากการพบหลักฐานเพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏหลักฐานให้เห็น วัดแสงจันทราราม ได้เรียกตามชื่อของพระ คือ นายทา แสงจันทร์ ซึ่งเป็นผู้บูรณะวัดแห่งนี้
• ศาลปู่ตา
ข้อมูลจาก ประวัติศาสตร์หมู่บ้านและชุมชนในจังหวัดเลย อำเภอนาผาขาว โดย กศน.อำเภอผาขาว จังหวัดเลย โครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน สำนักงาน กศน. จังหวัดเลย